“เบตง”คุมเข้มชายแดน-หลังมาเลย์ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ

หมวดหมู่ : ยะลา,

อ่าน : 626
อีฎิ้ลฟิตริ
“เบตง”คุมเข้มชายแดน-หลังมาเลย์ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ

ยะลา-เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง อ.เบตง จ.ยะลา เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวนตามแนวกำแพงชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าวในมาเลเซียลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย หลังประเทศมาเลเซียประกาศคำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. ถึงวันที่ 7 มิ.ย. 2564 

      

        นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่4 ตำรวจ สภ.เบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ตชด. ชุดเฝ้าตรวจชายแดน  อส.อำเภอเบตง เข้มงวดออกลาดตระเวนตามแนวกำแพงตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพิ่มขึ้นตั้งวันที่ 12 พ.ค.2564 ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาและช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจคัดกรองโควิด-19 และกักตัว 14 วัน ของกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าวในมาเลเซีย ซึ่งอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่นำพาโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ชายแดนไทย หลังจากประเทศมาเลเซียกำลังเผชิญกับการระบาดที่มีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังพบการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์แอฟริกาสายพันธุ์อินเดียและในประเทศมาเลเซียอีกด้วย

        ส่วนบรรยากาศที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมประสานงานประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ได้ร่วมกันคัดกรองแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย จำนวน 2 คน โดยต้องผ่านการฉีดยาฆ่าเชื้อ ตรวจสัมภาระ ซักประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกักตัว 14 วัน ที่ศูนย์ Local Quarantine ในพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี         สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 14 พ.ค. จ.ยะลา พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 6 ราย โดยพบในเขต อ.เมืองยะลา 5 ราย และ อ.บันนังสตา 1 ราย สถานการณ์โดยสรุป จ.ยะลา มีผู้ป่วยสะสมรวม 150 ราย รักษาใน รพ.100 ราย รักษาหาย 55 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 3 ราย  และยังมีการรอผลการตรวจอีกจำนวน 465 ราย         ด้ายประเทศมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีมาเลเซียประกาศคำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.-7 มิ.ย 64  เพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่ยังคงมีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งยังพบการระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์แอฟริกาและอินเดีย ในประเทศมาเลเซีย โดยมีคำสั่งห้ามประชาชนเดินทางระหว่างรัฐ รวมทั้งการเดินทางข้ามพื้นที่ภายในรัฐ ตลอดจนยังห้ามประชาชนมีกิจกรรมที่ต้องรวมกลุ่มกัน โดยมาตรการใหม่นี้เริ่มใช้ ก่อนที่จะมีเทศกาลอีฎิ้ลฟิตริของชาวมุสลิม วันที่13 พ.ค. ทำให้ชาวมาเลเซียหลายล้านคนต้องยกเลิกการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงสิ้นสุดเทศกาลรอมฎอน นอกจากนี้มีคำสั่งปิดสถานศึกษาทั่วประเทศ  ซึ่งในส่วนของธุรกิจ ผู้ประกอบการค้าต่างๆ ยังคงอนุญาตให้เปิดทำการได้ต่อไป 

        ทั้งนี้มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 15 พ.ค. 4,113  ราย รวมติดเชื้อสะสม 462,190 คน เสียชีวิตรวม 1,822 คน.



อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :