เผยทำลายลูกนก 1 ล้านตัวสูญ 5 พันล้าน-ส.ส.“นริศ” แฉขบวนการขโมยรังนกในสภาฯ
หมวดหมู่ : การเมือง, เศรษฐกิจ, พัทลุง,
โฟสเมื่อ : 15 ก.ย. 2564, 22:42 น. อ่าน : 1,394พัทลุง-ผวจ.พัทลุงยอมรับเสียใจที่เกิดการขโมยรังนกขึ้น ยืนยันจังหวัดทำดีที่สุดแล้ว แต่เรื่องทั้งหมดยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจากบริษัทที่รับสัมปทาน ขณะที่บริษัทรังนกฯแฉมีลูกนกถูกทำลายประมาณ 1 ล้านตัว มูลค่าเสียหายในระบบกว่า 5 พันล้านบาท ด้าน “นริศ” ส.ส.พัทลุง แฉในสภาฯ วาระหารือถึงการขโมยรังนกครั้งประวัติศาสตร์ จี้สภาฯ ไล่บี้ รมว.มท,รมว.ทรัพยากรฯ และ สตช.เอาคนผิดมาลงโทษ
ชาวพัทลุงและประชานทั่วไป ยังคงเฝ้าติดตามความคืบหน้า กรณีที่ขบวนการขโมยรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง บุกขโมยรังนกใน 7 ถ้ำใหญ่ บนเกาะในหมู่เกาะเกาะสี่ เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน ก่อนการส่งมอบเกาะให้กับ บริษัท สนามเนสท์ 2022 จำกัด ผู้รับสัมปทานใหม่ในวงเงิน 400 ล้านบาทท่ามกลางความประหลาดใจที่ชุดเฝ้าระวัง 40 กว่าคนไม่มีใครเห็นกลุ่มคนร้าย ซึ่งคาดว่ามีไม่น้อยกว่า 50 คน ที่เข้าไปขโมยรังนกด้วยวิธีการโหดเหี้ยม ห่อกองไฟใช้ควันไล่แม่นกที่กำลังฟักไข่ ทำให้นกตายไปนับล้านตัว จนนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ทนไม่ได้ออกมาเรียกร้องให้ รมว.มหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าว นสพ.ไทยแหลมทอง ซึ่งติดตามทำข่าวร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจของหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้(ที่ 15 ก.ย.2564) นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการังนกฯ ซึ่งในที่ประชุมรายงานให้ทราบว่าคดีลักรังนก 2 คดี และคดีล่อซื้อรังนก 1 คดี กำลังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนเงินอากรรังนก 80 ล้านบาทนั้น จะจ่ายเป็นค่าบริหารจัดการ 4 ล้านบาท จ่ายให้ อบต.เกาะหมาก 30,400,000 บาท จ่ายให้ อบจ.พัทลุง 13,680,000 บาท และจ่ายให้ท้องถิ่นทั้ง 72 แห่งๆละ 433,333 บาท ค่าใช้จ่ายในช่วงเฝ้ารังนก 88 วันนั้น 5.8 ล้านบาท และค่าวัสดุ/อุปกรณ์อีกกว่า 300,000 บาท
นายกู้เกียรติฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในถ้ำรังนกตนยังไม่ทราบเรื่อง เพราะยังไม่ได้รับรายงานจากทางบริษัทเป็นทางการ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทางจังหวัดฯกับบริษัทจะหารือกันต่อไป ส่วนกรณีที่นายนริศ ส.ส.พัทลุง เรียกร้องให้ รมว.มหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังไม่ทราบ แต่ตนมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงต่อ รมว.มหาดไทย และทุกๆฝ่ายได้ เรื่องเฝ้ารังนกไม่มีการปิดบัง หมกเม็ด โดยจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง ก็ต้องยอมรับในความบกพร่อง ผิดพลาด และจะร่วมกับบริษัทฯแก้ปัญหากันต่อไป ส่วนรายละเอียดต่างๆนั้นไม่สามารถเผยรายละเอียดกับบุคคลภายนอกได้ ต้องพูดคุยกับบริษัทฯเท่านั้น และกรณีพบของกลางของคนร้ายต่างๆภายในถ้ำตนก็ยังไม่ทราบเช่นกัน
ทางด้านพนักงานบริษัทฯที่รับผิดชอบในการจัดเก็บรังนกตามถ้ำต่างๆ ร่วมกับตัวแทนของคณะกรรมการรังนกฯ เปิดเผยว่า จากการจัดเก็บรังนกตามถ้ำต่างๆในวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น พบว่ารังนกถูกขโมยไปเกือบทุกถ้ำ และยังพบอุปกรณ์ขโมยรังนกในถ้ำแดงในเกาะเทวดา อาทิ ไฟฉายแบบคลุมศีรษะ ตาจอบ กางเกง 2 ตัว นอกจากนั้นยังพบเสื้อของ อส.อยู่ที่หน้าถ้ำรอก เกาะรอกอีกด้วย ส่วนรังนกในครั้งที่ 3 เก็บได้เพียงรังนกขาว 7.12 กก. รังนกดำ 51.38 กก. เท่านั้น สำหรับความโหดเหี้ยมขอกลุ่มคนร้ายที่จุดไฟในถ้ำต่างๆนั้น มั่นใจว่าทำให้ลูกนกตายไปนับล้านตัว โดยเป็นการตัดวงจรชีวิตนกไป 1 ปี ซึ่งนก 1 ตัว ภายใน 7 ปี สามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ดังนั้นการที่ลูกนกตายไป 1 ล้านกว่าตัวนั้น เป็นการสร้างความเสียหายให้กับจังหวัดพัทลุงทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
ขณะที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป.และเป็นคณะยกร่าง พ.ร.บ.รังนกฯปี 2540 เปิดเผยว่า สิ่งเลวร้ายครั้งประวัติศาสตร์บนเกาะรังนกของจังหวัดพัทลุงนั้น มาจากสาเหตุเจ้าหน้าที่ไม่เข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนเองยังไม่ตื่นตัวต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ามหาศาล และมีความอ่อนแอของภาคประชาชน เกือบทุกฝ่ายต่างรอคอยรับผลประโยชน์จากรังนก แต่ไม่เคยร่วมด้วยช่วยกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรรังนก ตนเห็นว่านายกู้เกียรติฯ ผวจ.พัทลุงจะต้องออกมาชี้แจงต่อประชาชนว่าเรื่องที่ผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากสิ่งใด การที่นิ่งเฉยอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ที่รัฐสภา กทม. เมื่อตอนสายวันเดียวกัน นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระหารือ โดยมีข้อความสรุปได้ว่า ปัญหาทรัพยากรนกถูกทำลาย รังนกถูกขโมยครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทยนั้น ได้สร้างความเสียหายอย่างยับเยิน ในขณะที่มีการพบของกลางของคนร้าย อาทิ เสื้อผ้า กระป๋องเครื่องดื่ม ขยะเป็นจำนวนมากมาย รวมทั้งพบก่อกองไฟในถ้ำหลายที่ จึงขอให้สภาฯ ทำหนังสือถึง รมว.มหาดไทย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือ ป.ป.ช., ป.ป.ท. ตั้งกรรมการ ตั้งชุดทำงานเพื่อตรวจสอบ เอาผิดกับผู้กระทำผิด และผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอให้ดำเนินการด้วยความเด็ดขาดจริงจังด้วย ปรากฏว่าการพูดเรื่องรังนกฯได้รับความสนใจจากบรรดา ส.ส.กันมาก.