เผย จนท.รัฐ ต้องนำหลักฐานหักล้างแสดงความบริสุทธิ์คดีสหกรณ์ ตร.พัทลุง

พัทลุง-เผยอดีตเจ้าหน้าที่รัฐที่จะถูกส่งอัยการทุจริต ภาค 9  ในคดีมหากาพย์ทุจริตโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด จะต้องนำเอกสาร หลักฐานไปหักล้างจากการไต่สวนของอัยการว่าเป็นผู้สุจริต

คดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุง จำกัด ทำให้เกิดความเสียหายวงเงินประมาณ 1,500 ล้านบาทและมีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย ยึดทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,003,753,140 บาท ด้านพนักงานสอบสวนนำสำนวนคดี พร้อมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง  26  รายส่งพนักงานอัยการมากกว่า  50,000 แผ่น ในขณะเดียวกันทาง ปปช. ก็ได้ส่งสำนวนการสอบสวนของ  เจ้าหน้าที่รัฐมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการส่งอัยการทุจริต ภาค 9 เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องและเกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 26 คน  ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2565 ว่า ความคืบหน้าคดีนี้ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์  รอง  ผบก.ภ.จว.พัทลุง  เปิดเผยว่า  หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับสำนวนดังกล่าวจาก  ปปช.  ทางชุดพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองพัทลุง  ชุดพนักงานสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง  จะได้นำเอกสาร  หลักฐาน  และสำนวนการสอบสวนของ  เจ้าหน้าที่รัฐแนบเข้าไป  ส่วนผู้ต้องหาคนดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีทางแพ่งหรือคดีฟอกเงินหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ปปช.เป็นหลักสำคัญ  สำหรับผู้ลงนามในสำนวนนั้นจะต้องเป็น  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. แต่หาก ผช.ผบ.ตร.ติดภารกิจสำคัญ  ทางด้าน  พล.ต.ต.ตานิตย์  รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ก็สามารถลงนามแทนได้

ส่วนการดำเนินงานของศาลทุจริตนั้นจะใช้วิธีไต่สวน  ซึ่งจะเป็นภาระที่จะต้องนำสืบให้ศาลทุจริตเห็นว่าผู้ต้องคนดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตในคดี คาดว่าจะเป็นภาระที่หนักที่ผู้ต้องหาว่าจะต้องนำเอกสาร  หลักฐานที่สำคัญ  ที่จะให้ศาลทุจริตเชื่อในความบริสุทธิ์ของตนเอง  อันจะเป็นส่วนสำคัญในการไต่สวนของอัยการในครั้งนี้  ไม่เหมือนกับคดีอาญาที่ใช้วิธีการของการระบบกล่าวหากับผู้ต้องหา ส่วนการดำเนินการคดีแพ่งและคดีฟอกเงินนั้นพนักงานสอบสวนจึงต้องยึดการพิจารณาของ ปปง.เป็นหลักสำคัญ และการนำส่งสำนวนของผู้ต้องหาต่ออัยการทุจริตนั้น  ทางพนักงานสอบสวนจะต้องคัดเอาเอกสารสำคัญแนบท้ายกับสำนวนไปด้วย  คาดว่าจะนำส่งอัยการทุจริตได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.