แจ้งจับอดีต จนท.สหกรณ์ ตร.พัทลุง ยักยอกเงินกู้เพิ่มของสมาชิก

พัทลุง-ประธานดำเนินงานสหกรณ์ฯเข้าแจ้งความเอาผิดกับอดีต จนท.สหกรณ์ฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้ 1 ราย นำสัญญาเงินกู้ของสมาชิกไปกู้เพิ่มแล้วยักยอกเอาเป็นของต้นเอง

     จากคดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด มูลค่าความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท มีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย นำกลุ่มผู้ต้องหาทั้งคดีฟอกเงินและคดีอาญาส่งสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 ขณะนี้สำนักงานอัยการฯอยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องทั้ง 2 คดี ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 และได้นัดกลุ่มผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวในครั้งที่ 4 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าพิจารณาการสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาน่าจะไม่แล้วเสร็จในปี 2566  

     ด้านกลุ่มตรวจสอบฯ เตรียมแจ้งความเอาผิดกับคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯหากไม่นำญัตติขอเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งคณะกรรมการแบบรวมเขตเข้าขอมติในการประชุมสามัญ ประจำปี 2566 ส่วนการดำเนินงานตามกฎหมายของกลุ่มผู้ต้องหาตามกระบวนการยุติธรรม  และการฟ้องยึดทรัพย์ของศาลแพ่งนั้นคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี   ด้าน สอ.ตร.พัทลุงได้นำเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 100 ล้านบาทไปชำระปิดยอดเงินกู้ต่อธนาคารรัฐแห่งหนึ่งในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา  ด้านสมาชิกสหกรณ์ฯออกโรงเรียกร้องให้คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯได้ใช้เงินที่จำเป็น  จะต้องร่วมกันรัดเข็มขัดเพื่อให้การฟื้นฟูสหกรณ์ฯเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  เนื่องจากกว่าที่จะได้รับคืนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาจะต้องใช้เวลานานกว่า  1   ปี ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น 

     ความคืบหน้าคดีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พ.ต.ท.หญิง  สิระดา  เประนาม  ประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง  จำกัด  ได้เข้าแจ้งความต่อ  ร.ต.อ.วิชา  หนูแป้นน้อย  รอง  สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง  เมื่อวันก่อน เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯรายหนึ่ง  ซึ่งก่อนหน้าที่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการทุจริตเงินสหกรณ์ฯไปก่อนแล้ว  ตามความผิดฐาน “ ปลอมเอกสารสิทธิ์  ใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม  ฉ้อโกงทรัพย์โยแสดงตนเป็นผู้อื่น  ยักยอกทรัพย์  ลักทรัพย์ซึ่งเป็นของนานจ้าง “ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เร่งสอบพยาน รวบรวมเอกสาร หลักฐาน  เพื่อผื่นฟ้องต่ออัยการจังหวัดพัทลุง  ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

     สำหรับพฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายดังกล่าว  สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ในขณะที่ผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ใน  สอ.ตร.พัทลุง ได้นำเอาสัญญาเงินกู้เดิมของสมาชิกแล้วนำมาเพิ่มยอดเงิน  จากนั้นได้นำไปยื่นกู้ใหม่เป็นครั้งที่  2  เพื่อให้คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯได้พิจารณาเงินกู้  หลังจากนั้น  จนท.คนดังกล่าวจะนำเงินที่เพิ่มเงินกู้ใหม่มาเป็นของตนเอง  หลังจากที่ทาง สอ.ตร.พัทลุง  ได้แจ้งให้สมาชิกได้ตรวจสอบยอดเงินกู้ เงินฝาก ทุนเรือนหุ้น  โดยให้ยืนยันลงลายมือชื่อด้วยตนเองทำให้สมาชิกทราบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นผู้นำหลักฐานการกู้เงินไปกู้เงินเพิ่มเติม 

     นอกจากนั้นผู้ต้องหาคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมยักยอกเงินของสมาชิก  สอ.ตร.พัทลุงบางราย  ซึ่งได้ไว้วางใจในการนำเงินสดมาฝากกับผู้ต้องหารายนี้ ให้นำเงินมาชำระเงินกู้บางส่วนให้กับสหกรณ์ฯ  แต่ผู้ต้องหาไม่ได้นำเงินไปชำระและกลับนำเงินมาเป็นของตนเอง  กลุ่มสมาชิกผู้เสียหายจากพฤติกรรมของผู้ต้องหา  จึงได้นำเรื่องไปแจ้งต่อพ.ต.ท.หญิง สิระดา  เประนาม  ประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง  จำกัด  และคณะกรรมการดำเนินงานฯได้รับทราบ  หลังจากมีการตรวจสอบก็พบว่าเป็นการกระทำของผู้ต้องหารายดังกล่าว  ทาง  พ.ต.ท. หญิง สิระดา  เประนาม  ประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง  จำกัด  จึงได้รวบรวมเกสาร  หลักฐาน  การกระทำความผิดของผู้ต้องหารายนี้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน  เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ต้องหาตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมต่อไป  ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.