แฉใช้ชื่อผี 387 รายโกงเงินสหกรณ์ ตร.พัทลุง ถึง 432 ล้าน
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 9 มี.ค. 2565, 21:50 น. อ่าน : 1,039พัทลุง-รองผู้การฯพัทลุง แฉใช้ชื่อผีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพยตำรวจพัทลุง มากถึง 387 คน ความเสียหายเป็นเงิน 432 ล้านบาท ส่วนงบดุลการเงินของสหกรณ์ฯ มีทั้งของจริงและของปลอม ด้านสมาชิกภาคสมทบวอน ผบ.ตร.ส่งตำรวจฝีมือดี มีประสบการณ์ลงพื้นที่มาช่วยคลี่คลายคดี
ชาวจังหวัดพัทลุงยังเฝ้าติดตามคดีการทุจริตโกงเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ที่พบยอดเงินแล้วไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท และพบว่ามีการตบแต่งบัญชี การนำคนตาย ไม่มีตัวตนมาเป็นสมาชิกเพื่อการทุจริต รวมทั้งพบการนำเช็คเงินสดไปเบิกเงินกับธนาคารมาแบ่งกันในกลุ่มผู้ทุจริต และแบ่งให้สมาชิกเป็นเงินปันผล /เงินเฉลี่ยคืนในบางส่วนมากถึง 76 ใบ ขณะที่สมาชิกสหกรณ์ฯเรียกร้องให้ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ไ้ตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจยศ “พันเอกเอก”จังหวัดหนึ่ง ที่น่าจะมีส่วนรู้เห็นและมีผลประโยชน์ของการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ รวมทั้งตรวจสอบ จนท.ส่งเสริมสหกรณ์ สนง.สหกรณ์จังหวัดฯ ด้วย เนื่องจากอาจจะมีส่วนรู้เห็นและรับผลประโยชน์ในการทุจริตในครั้งนี้ เพราะสงัสยว่าทำไมตรวจไม่พบการทุจริต ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ ทีมข่าวไทยแหลมทองที่ทำงานร่วมกับทีมข่าวเฉพาะกิจหนังสือพิมพ์ส่วนกลาง รายงานมาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2565 ว่า สมาชิกภาคสมทบซึ่งเป็นแม่บ้านของอดีตตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้นำเงินรายได้ของครอบครัวไปฝากไว้ในสหกรณ์ตำรวจฯ เพื่อความมั่นคงของครอบครัวทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ที่เป็นองค์การของตำรวจ โดยไม่คาดคิดเลยว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น และมีข้อสงสัยว่าทำไมระบบการตรวจสอบของผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย จึงเกิดการหละหลวมมากถึงขนาดนี้ การทุจริตในครั้งนี้เป็นการทำลายคุณภาพชีวิตและทำลายครอบครัวตำรวจด้วยกัน ส่วนการสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจดำเนินการกับตำรวจด้วยกัน ยังขาดความเชื่อมั่นจากสมาชิกสหกรณ์ฯ จึงขอเรียกร้องให้ ผบ.ตร.ส่งนายตำรวจฝีมือดีมาคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยเฉพาะชุดสืบสวนสอบสวนของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ที่ลงพื้นที่คลายคดีลักรังนกฯจนประสบความสำเร็จมาแล้ว พร้อมขอเรียกร้องให้มีการยึดทรัพย์สิน เงินสดของกลุ่มผู้กระทำความผิดคืนกลับมาสู่สหกรณ์ตำรวจฯ และดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิดโดยเฉียบขาด เพื่อมิให้เหตุการณ์ที่เลวร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
ด้าน พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง หัวหน้าชุดสอบสวนของคดีดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีนายตำรวจที่มีความรู้ ประสบการณ์ การสืบสวนสอบสวนด้านทุจริตด้านบัญชี/การเงิน มาร่วมคลี่คลายในคดีดังกล่าว ส่วนตนนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับการมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาอย่างเต็มที่แล้ว ในส่วนของพฤติกรรมของกลุ่มผู้กระทำความผิด ที่นำเงินออกจากสหกรณ์เพื่อประโยชน์ของพวกตน และนำไปให้กับกลุ่มตำรวจบำนาญที่เป็นสมาชิกนั้น มีทั้งระบบเช็คเงินสดและระบบออนไลน์ และมีการจัดทำบัญชีงบดุลขึ้น 2 ชุด ซึ่งมีทั้งของจริงและของปลอม ในช่วงที่มีการตรวจสอบบัญชีงบดุลนั้นจะให้ตรวจสอบของปลอม ที่มีการตกแต่งบัญชีที่แสดงให้เห็นว่าสหกรณ์ฯมีกำไร หากว่าผู้ตรวจสอบมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิด หรือไม่ตรวจสอบโดยเชิงลึกก็ยากที่จะตรวจพบการทุจริตได้
พ.ต.อ.วรชาติเปิดเผยอีกว่า การตกแต่งบัญชีที่นำชื่อผู้เสียชีวิตไปแล้ว บุคคลที่ไม่มีตัวตน และผู้มีตัวตนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดาทั้งในและต่างจังหวัด อุปโลกน์ขึ้นมาในการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ ตั้งแต่ปี 2542 –ปัจจุบันนั้น แบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม จำนวน 387 ราย ความเสียหายมากกว่า 432 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มบำนาญ 20 จำนวน 136 ราย กลุ่มบำนาญ 30 จำนวน 92 ราย กลุ่มบำนาญควนขนุน 83 ราย และกลุ่มปากพะยูน จำนวน 76 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 432 ล้านบาท โดยบุคคลในบัญชีผีบางรายเป็นชาวสวนยางพาราในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสหกรณ์ฯแต่อย่างใด ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.