แฉ พัทลุง โกง 7 ล้าน โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สูงสุดใน 7 จังหวัดภาคใต้

หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป, ท่องเที่ยว, ภาคใต้,

อ่าน : 1,271
โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” โกง 7 ล้าน
แฉ พัทลุง โกง 7 ล้าน โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สูงสุดใน 7 จังหวัดภาคใต้

        พฤติกรรมการฉ้อโกงในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” นี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ว่า ในขณะนี้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้นำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวจนนำไปสู่การกระทำความผิดโดยการฉ้อโกง ซึ่งไม่ได้เที่ยวจริง ใช้จ่ายจริง มีการนำเอกสารหลักฐานเท็จมาเบิกเงินกับทางราชการ สำหรับจังหวัดพัทลุงนั้นมีชาวพัทลุงเข้าไปเกี่ยวข้องในโครงการเที่ยวกันมากถึง 234 ราย ซึ่งมากที่สุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ โดยพื้นที่ที่มีคนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวมากที่สุดได้แก่ อ.บางแก้ว 111 คน อ.เขาชัยสน 30 คน อ.เมืองพัทลุง 18 คน ฯลฯ ทางพนักงานสอบสวนตามโรงพักต่างๆจะได้เชิญบุคคลทั้ง 234 ราย มาทำการสอบปากคำว่าบุคคลเหล่านี้ว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวได้อย่างไร เพื่อจะได้นำหลักฐานดังกล่าวไปสู่การดำเนินการตามกฎหมายกับตัวการสำคัญที่ใหญ่กว่านี้ ในขณะนี้ทางกองบัญชาการสอบสวนกลางและทางกองบังคับการกองปราบปรามได้ดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดไว้แล้ว 2 คน คือ ชาว จ.ชัยภูมิ 1 คน และ ชาว จ.สงขลา 1 คน

        พล.ต.ต.วรา เปิดเผยอีกว่า ในพื้นที่ อ.บางแก้ว นั้น มีผู้ถูกหลอกเอาเลขบัตรประชาชนไปสวมสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันมากเกือบทั้งหมู่บ้าน จากการที่ ร.ต.ท.หญิง จารุมณ อัตบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ได้เชิญตัว นายอุดม นาคอนันต์ อายุ  81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ที่ 1 ต.พญาขัน อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็น 1 ใน 18 คน ที่ถูกเอาเลขบัตรประชาชนสวมสิทธิ์ในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มาสอบปากคำที่โรงพัก พบว่านายอุดมเป็นคนหูตึงไม่เคยเดินทางไปเที่ยวที่ จ.ชัยภูมิ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ พูดจาไม่คล่องเนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถชี้ชัดได้ว่ามีการสวมรอยบัตรประชาชนของนายอุดมให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว 

        “ขอฝากไปยังประชาชนที่ถูกหลอกเอาเลขบัตรประชาชนสวมสิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันทั้ง 234 คน ให้เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ เพื่อนำหลักฐานไปดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิดต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ในจังหวัดพัทลุงนั้นได้ส่งผลให้รัฐบาลได้รับความเสียหายจากโครงการดังกล่าวมากถึง 9 ล้านบาท” พล.ต.ต.วรา กล่าว.