แถลงผลปฏิบัติการเชิงรุก จชต.ความรุนแรงลดลง 30% -จับคดีและยึดอาวุธได้อื้อ

ปัตตานี-ผบ.ฝ่ายความมั่นคง แถลงผลการปฏิบัติการเชิงรุกของ 3 ฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง เผชิญเหตุการณ์รุนแรงช่วง 1 ปี 27 ครั้ง วิสามัญผู้ก่อความรุนแรง และยึดอาวุธปืนระเบิดโจรใต้ได้จำนวนมาก รวมทั้งจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 20 คดี ผู้ต้องหา 35 คน ดำเนินคดีศาลตัดสินจำคุกและประหารชีวิต ทำให้ช่วง 6 เดือน สถานการณ์ลดลงถึง30%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(23 ก.ย.2564) พลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ไมตรี สันตยากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี นายเอกรัฐ ชูหวาน ป้องกัน จ.ปัตตานี ได้ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานเชิงรุกของหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่าย ในห้วงที่ผ่านมา ที่มณฑลทหารบกที่ 46 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติงานเต็มความสามารถจนทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ จ.ปัตตานี ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด  เกิดเหตุการณ์น้อยลง เพราะการควบคุมพื้นที่ และการปฏิบัติการเชิงรุกต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณที่ดี ที่ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนสู่สันติสุข

พลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า สถิติการก่อเหตุความรุนแรงทั้งสิ้น 27 เหตุการณ์ โดยอยู่ในห้วง ต.ค.63 - มี.ค. 64 จำนวน 16 เหตุการณ์ และห้วง เม.ย.- ก.ย. 64 จำนวน 11 เหตุการณ์ เปรียบเทียบในห้วง 6 เดือนแรกและ 6 เดือนหลัง ลดลง 5 เหตุการณ์ เหตุการณ์ลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย สามารถติดตามจับกุมบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ได้อย่างต่อเนื่อง 

กำลังเจ้าหน้าที่สามารถวิสามัญกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้รวม 5 ครั้ง ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 9 ราย รวมหมายจับ ป.วิอาญาทั้งสิ้น 34 หมายจับ ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้ง 9 คนนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงที่สำคัญในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี เคยร่วมก่อเหตุที่สำคัญมาจำนวนมาก เช่น เหตุการณ์ปล้นร้านทองสุธาดา ในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อ 24 ส.ค.2562 เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง ในพื้นที่ กทม. เมื่อ 2 ส.ค. 2562 เหตุการณ์คนร้ายยิง อส.ชคต.ประจัน ในโรงเรียนบ้านบูโกะ ในพื้นที่ อ.ยะรัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย เมื่อ 10 ม.ค. 2562 เหตุการณ์คนร้ายลอบยิง ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เมื่อ 7 ธ.ค. 63 และอีกหลายเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ จ.ปัตตานี

พลตรีคมกริช แถลงอีกว่า นอกจากนี้มีการตรวจยึดยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ อาวุธปืนพก อาวุธปืนสงคราม และระเบิดแสวงเครื่อง จำนวนมาก ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ โดยมีจำนวนการตรวจยึดอาวุธปืนทั้งสิ้น 17 กระบอก ระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดชนิดขว้างหรือไปป์บอมม์ จำนวนเกือบ 30 ลูก ติดตามปืนหายซึ่งคนร้ายนำไปจากเหตุการณ์ปล้นปืนอีกจำนวนหลายกระบอก ทั้งหมดนี้ตนต้องชื่นชม เจ้าหน้าที่ที่คอยกำกับดูแลและอำนวยความสะดวกตามจุดตรวจจุดสกัดต่างๆในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่มีเสรีในการปฏิบัติ ส่งผลให้เหตุการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างมาก

ขณะที่  พ.ต.อ.ไมตรี สันตยากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มีสถิติรถหายจำนวน 83 คัน ติดตามได้คืนจำนวน 77 คัน จับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวน 40 คน  และที่สำคัญคือการติดตามคดีของผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ทราบว่าศาลได้พิพากษาตัดสินให้ผู้กระทำความผิดต้องโทษที่ตนเองได้กระทำไว้จำนวนมาก โดยศาลฎีกาพิพากษาทั้งสิ้น 20 คดี รวมจำเลยทั้งหมด 35 คน แบ่งเป็นลงโทษคดีสิ้นสุดจำนวน 14 คดี รวมจำเลยที่ต้องโทษจำนวน 23 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องหาต้องโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตจำนวน 9 คดี จำเลยรวม 13 คน เป็นผลทำให้สถิติของการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างเห็นได้ชัด.