แนะ”Set Zero” ให้กก.สหกรณ์ ตร.พัทลุง ลาออก เปิดทางชุดใหม่แก้ปัญหาฟื้นฟูที่ถูกโกง
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 14 เม.ย. 2565, 14:53 น. อ่าน : 898พัทลุง-ประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ เสนอแนะให้ “ Set zero “ คณะผู้บริหารสหกรณ์ฯ เพื่อเปิดทางให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาบริหารงาน ด้านสมาชิกฯเรียกร้องให้นำกำไรมาปันผลแก่สมาชิก
คดีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ที่เข้ามาคุมคดี ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. มือปราบคดีรังนก นำกำลังตำรวจฝีมือดีของ สตช.มาร่วมคลี่คลายคดีร่วมกับ ตร.ภ.9 และ ภ.จว.พัทลุง จากสอบสวนยิ่งสาวลึกพบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาที่เข้าข่ายจะออกหมายจับได้ประมาณ 80 คน ส่วนการออกหมายจับผู้ต้องหานั้นน่าจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์เพราะต้องรอหลักฐานด้านธุรกรรมการเงิน และข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับการตกแต่งรายชื่อผี ด้านผู้การฯพัทลุงยืนยันจะร่วมกันออกหมายจับอย่างละเอียด รอบคอบ แต่จะไม่ปกป้อง ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาดตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ กล่าวในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานในการประชุมหารือในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำแผนฟื้นฟูสหกรณ์ตำรวจฯ ณห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เมื่อตอนบ่ายวันที่ 11 เมษายน 2565 ว่าการทุจริตสหกรณ์ฯไม่ได้ลึกลับซับซ้อนทุจริตกันแบบง่ายๆและหน้าด้านๆซึ่งทาง ป.ป.ง. ก็จะลงพื้นที่มาสืบสวนเพื่อติดตามเงินที่ทุจริตกลับมาในเร็วๆนี้ ส่วนการฟื้นฟูสหกรณ์จะใช้เวลา 10-15 ปีหรือไม่นั้น ทุกๆอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกๆฝ่าย สำหรับตนเห็นว่าน่าจะใช้วิธีการ “ Set zero “ โดยให้คณะกรรมการชุดใหม่มาบริหารงานสหกรณ์ฯ ซึ่งจะมี ผบก.ภ.จว. พัทลุง หรือ รองผบก.ภ.จว.พัทลุง เป็นประธานสหกรณ์ฯ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่มวลสมาชิกและสถาบันการเงิน รวมทั้งการยอมรับของทุกๆฝ่าย
พล.ต.ท.สมเดช กล่าวอีกว่า ประธานคณะกรรมการสหกรณ์ตำรวจฯในภาคต่างๆนั้น ส่วนใหญ่จะมี ผบก.ภ.จว. เป็นประธานคณะกรรมการโดยตำแหน่ง ตนจึงเสนอแนะให้คณะกรรมการสหกรณ์ตำรวจพัทลุงลาออกทั้งคณะ เพื่อให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาบริหารงานสหกรณ์ฯแทน หลังจากที่สหกรณ์ฯมั่นคงก็ค่อยให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯกันใหม่ ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯในชุดปัจจุบัน ตนเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติมาหลายปี ไม่เคยพบเห็นรูปแบบ วิธีการ การทุจริตเงินสหกรณ์ตำรวจฯแบบนี้มาเลย
ด้านนายสวัสดิ์ อ่อนประชู สหกรณ์จังหวัดพัทลุง กล่าวในที่ประชุมในครั้งนี้ว่า ต้องยอมรับว่าเงินที่เหลือในสหกรณ์ประมาณ 1,700 ล้านบาทนั้นเป็นเงินของเจ้าหนี้ทั้งหมด ไม่มีส่วนของงบดุลที่เป็นของสหกรณ์เลย เมื่อทำแผนฟื้นฟูในที่ประชุมใหญ่จะต้องยอมรับคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนเจ้าหนี้ด้วย และจากการดูกรอบการฟื้นฟูสหกรณ์ฯนั้นน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 15 ปี ซึ่งคณะกรรมการบริหารสหกรณ์จะต้องแสวงหาทุนจากเจ้าหนี้ จะต้องทำให้ผลประกอบการมีกำไรในอัตราก้าวหน้า ต้องรู้จักบริหารสภาพคล่อง นำเงินจากการทุจริตกลับคืนมา หาทางเยียวยาสมาชิก ป้องกันแก้ไขข้อบกพร่อง และต้องร่วมกันเสียสละเพื่อสหกรณ์
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากสมาชิกสหกรณ์รายหนึ่งว่า การเกิดการทุจริตในสหกรณ์ตำรวจฯนั้น ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับมวลสมาชิกและครอบครัวตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย จึงขอเรียกร้องให้ชุดสอบสวนของสตช. ภาค 9 และ ภ.จว.พัทลุง นำผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างเฉียบขาด เนื่องจากกลุ่มผู้กระทำความผิดดังกล่าวนี้มีความสุขอยู่บนความเดือดร้อนของตำรวจด้วยกัน และขอให้ ป.ป.ง.ได้ยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดทุกๆรายเช่นกัน ในส่วนของผลกำไรในปี 2564 ประมาณ 80 ล้านบาทนั้น น่าจะนำเป็นเงินปันผล /เฉลี่ยคืน เป็นส่วนหนึ่งมาเยียวยาให้แก่มวลสมาชิก มิใช่นำไปหักหนี้ของความเสียหายจากการทุจริตไปทั้งหมด ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.