แม่ทัพภาคที่ 4 เยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานบาดเจ็บจากถูกซุ่มยิงถล่มรถ

นราธิวาส-แม่ทัพภาค 4 เยี่ยมทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากการซุ่มโจมตีของผู้ก่อความไม่สงบ ที่ รพ.นราธิวาสใช้ ลำเลียงผู้สาหัส 4 นายส่งต่อ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 15.00 น. พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ได้เดินทางเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4613 จำนวน 5 นาย ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส  โดยทั้ง 5 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.16 ดักซุ่มยิงใส่รถยนต์ที่บริเวณหน้ากูโบร์บลูกาฮีเล ม.6 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะเดินทางกลับจากพิธีร่วมละศีลอดและร่วมกับชาวบ้านสร้างซุ้มประตูมัสยิดเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 7 เม.ย.67 ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย คือ ส.อ.สุรเดช สังขวงศ์ ถูกยิงที่บริเวณศรีษะ ส่วนอีก 4 นายได้รับบาดเจ็บตามร่างกายเล็กน้อย ได้แก่ 1.ร.อ.ชัยยุทธ สุกบู ผบ.ร้อย ทพ.4613 2.อส.ทพ.สามะแอ ดือมาสิ3.อส.ทพ.อาดนัย สุหลง และ 4. อส.ทพ.สมาน ลีอาเดี๋ยว

แม่ทัพภาคที่ 4 ได้พูดคุยสอบถามอาการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งนำความห่วงใย จากพลเอกณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มายังกำลังพล และครอบครัว ก่อนมอบกระเช้าเยี่ยมและเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้กับกำลังพล ทั้ง 5 นาย และได้กำชับหน่วยต้นสังกัดดูแลเรื่องสิทธิ และสวัสดิการโดยเร็ว

นอกจากเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวใน รพ.นราธิวาส แล้ว พล.ท.ศานติ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ MI 17 ในการเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4613 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 4 นาย ส่งรักษาต่ออย่างเร่งด่วนไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แก่1.จ.ส.อ.ศักดิ์รพี เพชรเรือน รอง ผบ.ร้อย ซึ่งถูกยิงที่ขาซ้าย 2.อส.ทพ.อนันต์ บือราเฮง ถูกยิงที่ขาและแขนซ้าย 3.อส.ทพ.มะกอเส อีมา ถูกยิงที่ขาซ้ายและ 4.อส.ทพ.เปาซี เจ๊ะเต๊ะ ถูกยิงที่ซีโครงซ้าย

พล.ท.ศานติ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ 9 นาย โดยนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 5 นาย ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 4 นาย ก่อนอื่นตนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงฝากพี่น้องประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในช่วงรายอหรือสงกรานต์ที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นการลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่เพิ่มความระมัดระวัง และเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยต่อเป้าหมายอ่อนแอ สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ตลอดจนให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมวัตถุพยาน รวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้.