แรงงานเมียนมา 26 คน หนีงานมาเลย์กดค่าแรง ลอบเข้าไทยเพื่อกลับบ้าน

นราธิวาส-ทหารร่วมกับ ตม.นราธิวาส ตรวจจับชาวเมียนมาลักลอบเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติ 26 คน หลังถูกมาเลเซียกดค่าแรงงานเลยหนีกลับมีทั้งไปทำงานถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

       เมื่อวันที่ 1 ก.พ.66 เวลา 13.30 น. พ.ต.ต. กรัณฑ์วาริษฐ์ สมจันทร์ สว.ตม.จว.นราธิวาส และ พ.ต.กฤตวิทย์ ชนะพันธุ์ รอง เสธ.บก.ควบคุมสุริโยทัย ได้ร่วมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และชุดควบคุมและป้องกันชายแดน สนองนโยบาย 

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทย์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.และ พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ออกแผนลาดตระเวนเฝ้าระวังตามแนวชายแดน โดยเน้นช่องทางข้ามธรรมชาติ ในการสกัดกั้นสินค้าหนีภาษี ยาเสพติด บุคคลหลบหนีคดีความมั่นคง และแรงงานต่างด้าว หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เจ้าหน้าที่มาเลเซียและไทยสามารถควบคุมการแพร่เชื้อให้อยู่ในวงจำกัด ที่กลุ่มบุคคลเป้าหมายคอยฉวยโอกาส ที่จะลักลอบข้ามแดน 

       ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายกันลาดตระเวนตรวจสอบตามช่องทางข้ามธรรมชาติ บริเวณ ถ.เจริญเขต ซอย 5 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก พบเห็นบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งมีกระเป๋าเสื้อผ้าติดตัว กำลังเดินลัดเลาะตามบริเวณขอบเขื่อนหินกระชุ ที่ก่อสร้างป้องกันน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลดังกล่าว มีจำนวน 26 คน โดยแยกเป็นผู้หญิง 7 คน และเป็นผู้ชาย 19 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบหลักฐานเอกสาร พบว่าทั้ง 26 คน ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำบุคคลทั้ง 26 คน มาสอบสวนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนราธิวาส

       การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ใช้ล่ามแปล จนทราบว่า บุคคลทั้ง 26 คน มีสัญชาติเมียนมา ที่เดินทางไปทำงานก่อสร้าง รับจ้างทั่วไป และร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย และแอบลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนายังประเทศเมียนมา โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกถูกนายจ้างมาเลเซียกดค่าแรงงาน และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่เดินทางถูกต้องเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย แบบกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่เมื่อหนังสือ เดินทางหมดอายุ จึงต้องแอบลักลอบเข้าประเทศ ไทย เพื่อเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต.