“โจ๊ก”ประกาศเป็น”อัศวินม้าขาว” ปราบขบวนการลักรังนกให้สิ้นซาก -แฉมีเรื่องอื้อฉาวรอเปิดโปงอีก
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 4 พ.ย. 2564, 22:21 น. อ่าน : 1,279พัทลุง- “ผู้ช่วยโจ๊ก”ประกาศพร้อมเป็นอัศวินขี่ม้าขาวปราบขบวนการลักรังนกทั่วประเทศ ด้าน จนท.ฝ่ายปกครองและ อส.เจ้าของคลิปเสียงอื้อฉาวเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว รวมผู้ต้องหามามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 36 คน หลบหนี 1 คนและป่วยติดโควิด-19 อีก 1 คน ด้านกลุ่มบงการยังดิ้นติดต่อนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลเจรจาตำรวจ ให้ตัดตอนแค่กลุ่มสั่งการที่เป็นข้าราชการแต่ถูกปฏิเสธ และมีเรื่องอื้อฉาวรอการเปิดโปงให้ตื่นเต้นกันอีก
ความคืบหน้าคดีขบวนการลักรังนกอีแอ่น จ.พัทลุงครั้งมโหฬารที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมอยู่ในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้ (4 พ.ย.2564 ) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการงานสืบสวนสอบสวนในคดีลักรังนกของ สตช. และ ภ.จว.พัทลุง กลุ่มผู้ต้องหาแถวที่ 3 ในจำนวน 21 คน ได้เข้ามอบตัวอีก 3 ราย เป็นฝ่ายปกครอง 2 ราย และอส.1 ราย โดยเข้ามอบตัวพร้อมทั้งทนาย และทุกคนปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา สำหรับฝ่ายปกครอง 1 ราย และ อส.ที่เข้ามามอบตัวในครั้งนี้ทั้ง 2 คนเป็นเจ้าของเสียงในคลิปเสียงอื้อฉาวที่ถูกเผยแพร่จนฉาวโฉ่กันทั่วประเทศช่วงแรกของคดีที่ผ่านมา และขณะนี้มีผู้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 20 คน เหลืออีก 1 คน ติดโควิด-19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล รวมกับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 17 คน มามอบตัว 16 คน หลบหนี 1 คน ขณะนี้มีผู้ต้องหามามอบตัวแล้วรวม 36 คน หลบหนี 1 คน และป่วย 1 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนสายวันนี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต. ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวนในคดีรังนก พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พร้อมด้วย จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุง ได้ลงเรือเร็วที่บริเวณท่าเทียบเรือของบริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ท้องที่ หมู่ 9 ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว เดินทางไปยังหมู่เกาะรังนก เมื่อถึงสำนักงานของบริษัทรังนกฯ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้มอบหมายให้ จนท.พิสูจน์หลักฐานพัทลุงเข้าตรวจดีเอ็นเอ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ในห้องเก็บของของคนงาน เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าห้องดังกล่าวเป็นที่เก็บรังนกของกลุ่ม จนท.รัฐ และ อส. ที่ขโมยมาจากถ้ำรังนก ก่อนที่จะนำลงปะปนไปกับเศษขยะนำไปขายในพื้นที่ จ.ชุมพร และพื้นที่ต่างๆ ท่ามกลางความตื่นตะลึงของคนหลายคน เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนเลยว่าห้องดังกล่าวเป็นที่เก็บรังนกที่ลักจากถ้ำ จากนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินเท้าไปสำรวจถ้ำเนียงเคยที่อยู่ใกล้กับสำนักงานฯ และนั่งเรือหางยาวเดินลุยน้ำไปยังถ้ำรื่นที่มีการเผาไฟไล่นก
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.)และคณะ ได้เข้ามาเก็บพยานหลักฐาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปมากแล้ว แต่หลังจากการสืบสวนสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ยังมีบางส่วนที่จะต้องเข้ามาดูอีกครั้งหนึ่ง จึงได้นำพนักงานสืบสวนสอบสวน และจนท.พิสูจน์หลักฐานฯ เข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บร่องรอย วัตถุพยานอีกส่วนหนึ่ง เพื่อให้สำนวนการสอบสวนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้สำนวนการสอบสวนไปไกลมากถึงร้อยละ 70 แล้ว จากการเก็บหลักฐานในห้องเก็บรังนกในวันนี้เราจะสามารถเชื่อมโยงในส่วนของความเกี่ยวพันของดินที่รังนก ดินที่เก็บได้จากถ้ำต่างๆ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ต้องหาได้ หลังจากวันนี้การเก็บพยานหลักฐานด้านต่างๆ ก็จะเสร็จสิ้นแล้ว หลักฐานพาดพิงถึงใครจะต้องจับกุมทุกรายไม่ว่าจะเป็น จนท.รัฐหรือพลเรือน
พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ เปิดเผยถึงการทำสำนวนคดีว่า คดีรังนกแบ่งเป็น 2 ส่วน สำนวนการสอบสวนเรารับคดีไว้ 3 สำนวน ในส่วนของการดำเนินคดีที่มีทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนการลักรังนกนั้นหากไม่มี จนท.รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องยากนักที่จะลักรังนกได้ จึงต้องดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทั้งผู้ลักและผู้นำไปขาย ขณะนี้ตำรวจได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาแล้วทั้งระดับนายอำเภอ ผกก. ฝ่ายปกครอง อส. และ จนท.ป่าไม้ จากนี้ไป ผวจ.พัทลุง และ ผบก. ภ.จว.พัทลุง และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องร่วมบูรณาการกัน เพื่อป้องกันมิให้มีการลักรังนกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการลักรังนกตามพื้นที่ต่างๆของภาคใต้ 7 จังหวัด และภาคอื่นๆ อีก 2 จังหวัด ในฐานะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯเป็นคนใต้จะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การลักรังนกมีขึ้นใน จ.พัทลุง จึงต้องนำจังหวัดพัทลุงเป็นพื้นที่นำร่องการป้องปรามกลุ่มลักรังนกไปยังจังหวัดต่างๆของภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ตนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกับผู้ขโมย ผู้สั่งการและผู้อยู่เบื้องหลัง วันนี้จะต้องทำให้การจัดเก็บรังนกใน จ.พัทลุง เป็นตัวอย่างในการป้องปรามการลักรังนกในจังหวัดอื่นๆ จังหวัดไหนที่มีการลักรังนกจะต้องจับให้ได้ทุกคน เชื่อว่าคนร้ายคงจะเข็ดหลาบกับการลักรังนก ตนจะบังคับการใช้กฎหมายให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกันตามนโยบายของ ผบ.ตร.
“ผมในฐานะคนใต้จะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเดินหน้าป้องกันปราบปรามขบวนการลักรังนกตามจังหวัดต่างๆให้สิ้นซาก โดยจะนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเฉียบขาด เนื่องจากรังนกตาม พ.ร.บ.รังนก พ.ศ. 2540 นั้น เป็นผลประโยชน์ของท้องถิ่น ประเทศชาติ และเป็นทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดินที่มีคุณค่ายิ่ง เงินอากรรังนกจะต้องเป็นของพี่น้องประชาชนตามจังหวัดที่มีเกาะรังนก จะตกอยู่ในกำมือผู้กระทำผิดกฎหมายไม่ได้โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งฝากไปยังพี่น้องชาวใต้ว่า ผมจะทำกฎหมายเป็นกฎหมายให้เด็ดขาด จากนี้ไปไม่ต้องวิตกกังวลการลักรังนกกันแล้ว ขอให้จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ย้ำอย่างหนักแน่น
ทางด้านความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการลักรังนกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มบงการที่มีทั้งนักการเมืองและอดีต สจ.ในภาคใต้ ยังใช้ความพยายามที่จะติดต่อขอเคลียร์กับทางตำรวจ ให้ตัดตอนแค่กลุ่มสั่งการคือกลุ่มข้าราชการ โดยผ่านนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล แต่นักการเมืองที่ได้รับการติดต่อต่างปฏิเสธที่จะเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เพราะพยานหลักฐานชัดแจ้งอยู่แล้ว นักการเมืองคนไหนเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย จะถูกมองว่าอยู่ในกลุ่มบงการที่อยู่เบื้องหลังขบวนการลักรังนก อีกทั้งคดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้แถลงชัดเจนว่าเป็นคดีสำคัญระดับชาติที่ต้องทำคดีอย่างเด็ดขาด และผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คดีนี้ยังไม่จบแค่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ยังมีเรื่องอื้อฉาวรอการเปิดโปงให้ตื่นเต้นกันอีก ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.