โพลล์สมาชิกสหกรณ์ ตร.พัทลุงฯ 94% ให้เลือก กก.ใหม่แบบรวมเขต
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 30 ต.ค. 2566, 14:30 น. อ่าน : 589พัทลุง-อัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 นัดกลุ่มผู้ต้องหาคดีมหากาพย์ทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ครั้งที่ 4 วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ขณะที่โพลล์สมาชิกสหกรณ์ฯ 94 % ให้เลือกคณะกรรมการสหกรณ์ชุดใหม่แบบรวมเขต
คดีมหากาพย์การทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ที่มีความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาทนำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย มีการนำกลุ่มผู้ต้องหาทั้งคดีฟอกเงินและคดีอาญาส่งสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 ขณะนี้สำนักงานอัยการฯอยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องทั้ง 2 คดี ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 และได้นัดกลุ่มผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวในครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
ขณะที่ธนาคารออมสินภายใต้การประสานงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เตรียมปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยผ่านชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด จำนวน 100 ล้านบาท ให้กับ สอ.ตร.พัทลุง เพื่อนำไปปิดบัญชีเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยแพงของธนาคารรัฐแห่งหนึ่ง ในประมาณเดือน ธันวาคม 2566 ด้าน ป.ป.ง. ได้ส่งหมายเรียกพยานบุคคลของศาลแพ่ง คดีการทุจริตเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด เพื่อให้พยานบุคคลไปให้ปากคำต่อศาลแพ่ง กรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนธันวาคม 2566 และเดือน มกราคม 2567 ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการพิจารณาสั่งฟ้องของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 นั้น ได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากในคดีดังกล่าวมีสำนวนการสอบสวนมากถึง 123 แฟ้มดำขนาดใหญ่ มีสำนวนการสอบสวนมากถึงเกือบ 60,000 กระดาษ เอ 4 ซึ่งการพิจารณาสำนวนฟ้องนั้นจะต้องตรวจสอบเอกสาร หลักฐานที่สำคัญควบคู่กันไปด้วย ดังนั้น การส่องฟ้องของสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 ทั้งด้านคดีอาญา และคดีฟอกเงิน ของกลุ่มผู้ต้องหานั้น จึงต้องใช้ระยะเวลานานซึ่งยังไม่สามารถระบุวันส่งฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ได้ในวันไหน
ขณะเดียวกันทางสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 ได้มีการนัดให้กลุ่มผู้ต้องหาไปรายงานตัวในครั้งที่ 4 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ทำให้หลายๆฝ่ายคาดว่าการพิจารณาสั่งฟ้องในคดีดังกล่าวน่าจะไม่แล้วเสร็จในปี 2566
ส่วนคดีการทุจริตเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด สมาชิกเฝ้าติดตามการขอให้ศาลแพ่งสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายของนางสาวสุภา สุวรรณเดชา กับพวก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว นำไปคืน หรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย แทนการมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังจากการสั่งของศาลแพ่งแล้วก็จะทรัพย์สินไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินทั้งหมดมาคืนให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้จากการที่ ป.ป.ง. ได้เรียกพยานบุคคลของคดีดังกล่าวไปเป็นพยานในศาลแพ่งในครั้งนี้ ได้สร้างความพึงพอใจให้แก่บรรดาสมาชิก สอ.ตร.พัทลุง เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งผลให้การฟื้นฟูสหกรณ์ฯมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น สมาชิกฯจะได้มีหุ้นกลับคืนมา ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับการยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาในครั้งนี้
ทางด้านกลุ่มตรวจสอบและติดตามการดำเนินงารของคณะกรรมการสหรณฯ ที่ได้มีกาการเสนอการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งใรการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 เปิดเผยว่าทางกลุ่มฯได้จัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นของสมาชิก สอ.ตร.พัทลุง เกี่ยวกับการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯ ขณะนี้การจัดทำโพลเสร็จสิ้นแล้ว โดยสมาชิกบำนาญต้องการให้มีการเลือกตั้งแบบรวมเขต ร้อยละ 81.82 ต้องการเลือกกรรมการฯแบบแบ่งเขต ร้อยละ 18.19
จากการที่นำโพลล์ของสมาชิกทั้งหมดมารวมกันปรากฏว่าสมาชิกฯทั้งหมดเห็นด้วยในการเลือกตั้งคณะกรรมการแบบรวมเขต ร้อยละ 94.03 และต้องการเลือกกรรมการแบบแบ่งเขต ร้อยละ 5.97 แสดงให้เห็นว่าสมาชิกฯต้องการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯแบบรวมเขต ที่เหมือนกับการเลือกตั้งของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดต่างๆในขณะนี้ ซึ่งทางกลุ่มฯจะได้รายงานผลการจัดทำโพลในครั้งนี้ไปแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทุกๆฝ่ายได้รับทราบกัน เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาวาระการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินงานฯในการประชุมสามัญประจำปี 2566 ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.