ไทย-มาเลย์แก้ปัญหาประมง อลุ่มอล่วยตั้ง กลุ่มไลน์ช่วยติดต่อ

ประชุมสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ จ.สตูล ชื่นมื่น ทั่ง 2 ฝ่ายวางแนวทางแก้ปัญหาการรุกน่านน้ำระหว่างการทำประมงผิดกฎหมาย ให้อยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ทั้ง 2 ประเทศ อลุ่มอล่วย โดยตั้งกลุ่มประสานกัน หรือตั้งกลุ่มไลน์ประสานงานกัน เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน   

     พลจัตวา รอสลี บิน โมฮัมเหม็ด ไอซา ผู้บัญชาการภาคทหารเรือที่ 3 ประเทศมาเลเซีย และนายชาตรี ณ ถลางรอง ผวจ.สตูล ร่วมเป็นประธานการประชุมสำนักงานประสานงานชายแดนไทย – มาเลเซีย ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2566 เวลา 09.30 น. โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องจากประเทศมาเลเซีย จำนวน 11 คน และฝ่ายไทย 25 คน ร่วมประชุม 36 คน 

     การประชุมดังกล่าวที่ประชุมมีการพูดถึงความแนวทางแก้ไขการรุกล้ำน่านน้ำระหว่างประเทศทำการประมงผิดกฏหมายที่อยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ชาติทั้ง 2 ประเทศ และพูดถึงความร่วมมือในเขตน่านน้ำรอยต่อระหว่างจ.สตูลกับประเทศมาเลเซีย คือรัฐเคดาห์ รัฐเปอร์ลิส รัฐปีนัง และเกาะลังกาวีประสานงานการป้องกันการประทำผิดกฎหมายในเขตน่านน้ำรอยต่อ และให้มีการตั้งกลุ่มเพื่อสื่อสารกันได้รวดเร็วหรือกลุ่มไลน์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ประเทศ เพื่อความรวดเร็วในการประสานงาน 

     ส่วนกรณีความผิดไม่ร้ายแรงก็ขอให้ต่างฝ่ายต่างอะลุ่มอล่วย เช่นกรณีเรือประมงที่อาจจะรุกล้ำน่านนำโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น เครื่องยนต์เสีย หรืออุปกรณ์ในเรือเสีย และถูกคลื่นซัดเข้าไปในน่านน้ำของแต่ละประเทศก็ขออลุ่มอล่วยกันแต่ความผิดร้ายแรงเช่นยาเสพติดหรือบุคคลทำผิดกฏหมายหลบหนีไปหลบซ่อนเป็นเรื่องที่แต่ละฝ่ายยอมกันไม่ได้

     หลังการประชุมเสร็สิ้น ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายรมลี บิน มุสตาฟา หัวหน้าสำนักงานบังคับทางทะเลเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย(Maritim) เปิดเผยว่าสำหรับหน่วยงานดังกล่าวมีหน้าที่ปราบปรามการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล บริเวณรัฐเปอร์ลิส รัฐเคาดาห์ รัฐปีนัง รวมทั้งเกาะลังกาวี มีหน้าที่ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ลักลอบทำประมงผิดกฏหมายหรือเรือประมงที่ลักลอบเข้าไปทำประมงในประทศมาเลเซีย แต่กรณีที่เรือประมงของไทยเครื่องเสียถูกคลื่นซัดเข้าไปในประเทศมาเลเซียก็จะมีการอลุ่มอล่วยกันเพราะถือว่าไม่ได้ตั้งใจ 

     ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีที่มีข่าวว่านายเชาวลิต  ทองด้วง หรือเสี่ยแป้งนาโหนด ที่มีข่าวว่าน่าจะหลบหนีไปหลบซ่อนที่เกาะลังกาวี  โดยนายรมลี บิน มุสตาฟา บอกว่าไม่ทราบว่าเสี่ยแป้งคือใคร แต่การลักลอบไปยังเกาะลังกาวีเป็นเรื่องผิดกฏหมายอยู่แล้ว ส่วนกรณีของเสี่ยแป้งเป็นเรื่องยากที่จะไปอยู่ลังกาวีได้ เพราะพื้นที่แคบมีคนอยู่หนาแน่นคงไม่มีทางจะรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้

     ด้านพลเรือจัตวา รอสลี บิน โมฮัมเหม็ดไอซา ผู้บัญชาการภาคทหารเรือที่ 3(เกาะลังกาวี) กล่าวว่า การประชุมร่วมในครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซีย แนวทางการแก้ไขรุกล้ำน่านน้ำระหว่างประเทศ  มีการตั้งวอรูมเพื่อประสานงานติดต่อสื่อสาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีมีเหตุการณ์พื้นที่น่านน้ำ ทางมาเลเซียเองได้มาขอความร่วมมือในการประสานงานฝ่ายไทยในเรื่องของสิ่งของผิดกฏหมาย โดยมาเลเซียเองมีการเข้มงวดอยู่แล้วจึงอยากขอความร่วมมือฝั่งไทยในเรื่องนี้ด้วย.