“ชาวมูโนะ” จี้ทนายเอาเจ้าของโรงงานพลุระเบิดเข้าคุก-ผิดนัดจ่ายค่าเสียหาย

หมวดหมู่ : นราธิวาส, ทั่วไป,

อ่าน : 203
ชาวมูโนะจี้ทนายเอาจำเลย 2 ผัวเมียเจ้าของโกดังพลุระเบิด
“ชาวมูโนะ” จี้ทนายเอาเจ้าของโรงงานพลุระเบิดเข้าคุก-ผิดนัดจ่ายค่าเสียหาย

นราธิวาส-ชาวมูโนะจี้ทนายเอาจำเลย 2 ผัวเมียเจ้าของโกดังพลุระเบิดเข้าคุก หลังผิดนัดจ่ายชดเชยค่าเสียหาย และศาลให้ประกันตัว เนื่องจากฝ่ายผู้เสียหายไม่คัดค้านการประกันตัว เพื่อเปิดโอกาสให้ไปหาเงินมาจ่ายค่าเสียหาย แต่กลับผิดนัดไม่จ่ายตามข้อตกลง


เมื่อเช้าวันที่ 16 ก.ย. 67 นายโอฬาร กุลวิจิตร ประธานสภาทนายความภาค 9 พร้อมด้วย นายรังสฤษดิ์ ศรีสองคอน ประธานสภาทนายความจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยกรรมการศูนย์ยุติธรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน3 คน ประกอบด้วยนายไซซูดิน หะมะ นายหะรูน แหละดี และนายประสิทธิ์ ศรีสืบ ได้เดินทางมาพบปะตัวแทนชาวตลาดมูโนะ ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟซึ่งตั้งอยู่ที่ตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลกจ.นราธิวาส ได้ระเบิดขึ้น เมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 ในการแแจ้งข้อมูลความคืบหน้าการดำเนินคดี กับ นายสมปอง ณะกุลและ น.ส.ปิยุนุช พึ่งวิรวัฒน์ 2 สามีภรรยา เจ้าของโกดังฯ ที่โรงยิมสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 


ตัวแทนชาวบ้านแจ้งกับนายโอฬาร ประธานสภาทนายความภาค 9 และคณะ โดยสรุปว่า 2 สามีภรรยา หลังแจ้งความประสงค์ต่อศาลขอยื่นประกันตัว เพื่อที่ไปหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายคืนให้แก่ชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย ด้วยการวางที่ดิน 15 แปลงต่อศาลเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัว แต่ 2 สามีภรรยาผิดนัดในการจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหาย โดยที่ตกลงกับชาวบ้านว่า 2 สามีภรรยาจะต้องจ่ายเงินในวันที่ 31 ก.ค.67 สำหรับชาวบ้านที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายในวันที่ 31 มี.ค.68  และในส่วนของชาวบ้านที่ทรัพย์สินเสียหายเกิน 1 หมื่นบาท 2 สามีภรรยาจะจ่ายในวันที่ 30 ก.ย. 67 เป็นงวดแรก ดูเหมือนลักษณะ 2 สามีภรรยามีความจงใจจะเบี้ยวหรือผิดสัญญา ชาวบ้านทุกคนต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ 2 สามีภรรยาเขายังใช้ชีวิตสุขสบายข้างนอกเหมือนเขายังคงมีความสุขบนทุกข์ของขาวบ้านตลาดมูโนะ


นายโอฬาร ประธานสภาทนายความภาค 9 ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เมื่อ 2 สามีภรรยาผิดนัด ทางทนายความจะขอให้ทางศาลตั้งพนักงานบังคับคดี เพื่อทำการยึดทรัพย์ซึ่งอาจจะเป็นที่ดิน 15 แปลงที่ตั้งไว้กับศาลจึงขอให้ชาวบ้านเข้าใจกระบวนการที่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง


ต่อมาเมื่อนายโอฬาร ประธานทนายสภาทนายความภาค 9 ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วเสร็จ จึงเปิดเผยว่า ในกรณีคดีของมูโนะตั้งแต่ปี พ.ศ.2566 ในส่วนเฉพาะของคดีแพ่งที่ได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้าน ปรากฏว่าทางผู้เสียหายและจำเลยได้ทำข้อตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ค่าเสียหายที่ฟ้องไว้เบื้องต้นทั้งหมด 300 กว่าล้านบาท แต่ทางศาลได้พยายามไกล่เกลี่ยซึ่งทางผู้เสียหายได้ยอมรับในผลลัพธ์ของการไกล่เกลี่ย ค่าเสียหายลดมาอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท 


ระหว่างที่มีการเจรจาคดีนั้นทางฝ่ายจำเลยได้ขอประกันตัว เพื่อที่จะออกไปหาเงินและเอาทรัพย์สินต่างๆเอามาขายเพื่อชำระหนี้ให้กับชาวบ้าน ทางศาลได้สอบถามทางผู้เสียหาย ฝ่ายทนายความมองว่าหากได้ประกันตัวออกไปแล้ว สามารถที่จะหาทรัพย์สินมาวางที่ศาลหรือขายทอดตลาดและนำเงินมาชำระหนี้ให้กับผู้เสียหายได้ ทางทนายความก็ได้มีการตกลงและไม่ได้คัดค้านในเรื่องของการประกันตัว หลังจากนั้นฝ่ายจำเลยได้นำที่ดินจำนวน 15 แปลง อยู่ในจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดสงขลามาประกันตัว โดยศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว 


อย่างไรก็ตามในส่วนของความเสียหายที่เกิดระเบิดขึ้น และทำให้มีผู้เสียชีวิต ฝ่ายจำเลยได้มาชดใช้แล้วประมาณ 2 ล้านกว่าบาท แต่ในส่วนของคดีทางแพ่งจากการสอบถามชาวบ้านทั้งหมดแล้วยังไม่ได้มีการชำระหนี้แต่ประการใดๆ โดยมีการผิดนัดซึ่งต่อไปทางทนายความจะขอให้ทางศาลตั้งพนักงานบังคับคดี เพื่อทำการยึดทรัพย์ซึ่งอาจจะเป็นที่ดินทั้ง 15 แปลง หากไม่พอก็จะยึดทรัพย์ที่ดินแปลงอื่นๆ เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับชาวบ้านเท่าที่จะหาได้


“ สิ้นเดือนกันยายนนี้จะเป็นงวดสุดท้ายที่นัดไว้ว่าจะมีการชำระ เพราะฉะนั้นเราก็รอให้ถึงสิ้นเดือนกันยายนเพื่อให้ครบกำหนดผิดนัดในทุกครั้ง ทางเราจะมีการตั้งพนักงานบังคับคดีเพื่อทำการยึดทรัพย์ แต่มาวันนี้ชาวบ้านแจ้งมาว่าเขาผิดนัดตั้งแต่งวดแรก ทางเราสามารถที่จะตั้งพนักงานบังคับคดีได้เลย แต่ถ้ามีการนำทรัพย์สินมาขายทอดตลาดน่าจะได้เงินน้อยกว่าที่ได้ตกลงให้มีการชำระหนี้ให้กับผู้เสียหาย โดยจะต้องมีการนำเงินที่ได้มาถัวเฉลี่ยกัน คนเสียหายมากจะได้มากคนเสียหายน้อยก็จะได้น้อย “ นายโอฬาร กล่าว


นอกจากนี้ นายโอฬาร ประธานทนายสภาทนายความภาค 9 ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในส่วนของจำเลยที่ได้ขอต่อศาลในการนำหลักทรัพย์มาประกันตัว และทางผู้เสียหายเองไม่มีการคัดค้าน เนื่องจากว่าเห็นว่าจำเลยนำทรัพย์มาวาง เพื่อที่จะมาชำระหนี้ให้กับผู้เสียหาย เมื่อถึงขณะนี้จำเลยมีการผิดนัด ทางเราจะมีการขอต่อศาลพิจารณาเรื่องของการอนุญาตการปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อจำเลยผิดนัด และชาวบ้านที่เสียหายซึ่งมีประมาณ 564 ราย อยากจะขอให้ศาลพิจารณา เรื่องการไม่มีการชำระเงินใดๆมาเลย ดังนั้นจะขอให้ศาลพิจารณาในเรื่องของการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะคิดว่าเมื่อจำเลยมีการผิดนัดแบบนี้ก็น่าจะอยู่ในเรือนจำเหมือนเดิม หรือจำเลยต้องการที่จะดิ้นรนเพื่อที่จะเอาเงินมาชำระหนี้ให้กับชาวบ้านได้


ขณะที่นางสาวนิฟารา เปาะอาแดะ 1 ในผู้เสียหายกล่าวว่า ตนสูญเสียบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ที่ผ่านมาในเดือนเมษายน ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยและทำสัญญา โดยยอดแรกที่เขาจะชดใช้คือยอดของผู้เสียหายที่ไม่เกิน 10,000 บาทจะชดใช้ไม่เกินวันที่ 30 พฤษภาคม และตั้งแต่นั้นมาไม่มีการชำระเข้ามา ทางเขาได้มีการผิดนัดทางเราก็เลยกังวลโดยมีทีมทนายความมาในวันนี้จะได้รู้ว่า จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยทางทีมทนายความจะมีการตั้งพนักงานบังคับคดีในการยึดทรัพย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในกรณีของชาวบ้านเป็นกรณีของคดีแพ่ง ชาวบ้านได้มีการตั้งคำถามว่า เป็นแค่คดีแพ่งเขาก็แค่ติดคุก แล้วจะมีการชดใช้ค่าเสียหายหรอไม่ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายคนทุกคนต้องเผชิญกับความลำบาก แต่คู่กรณีเขายังใช้ชีวิตสุขสบายข้างนอก เหมือนเขายังคงมีความสุขบนความทุกข์ของชาวบ้าน ครั้งนี้จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีเป็นกรณีพิเศษเร็วที่สุด


ด้าน ด.ต.รูสลาม อาแว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ เปิดเผยความคืบหน้าในการก่อสร้างบ้านเรือนของประชาชน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโกดังระเบิด หรือ จุดศูนย์กลางโซนไข่แดงที่เป็นสถานที่ตั้งของโกดังเก็บดอกไม้ไฟ ที่มีบ้านเรือนของประชาชน จำนวน 76 หลังนั้น ล่าสุดชาวบ้านได้ดำเนินการหาผู้รับเหมาด้วยตนเองแล้วทุกราย ได้ทำสัญญาการสร้างบ้านกับผู้รับเหมา จะมีการจ้างเงินเป็นงวดๆ จากการควบคุมการจ่ายเงินของทางจังหวัดนราธิวาส โดยจะอนุมัติให้เฉพาะค่าวัสดุสร้างบ้านและค่าแรงตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนด ระยะเวลาในการก่อสร้างบ้านแต่ละหลังไม่เกิน 3 เดือน และล่าสุดทางผู้รับเหมาได้ทยอยตอกเสาเข็มบ้านของแต่ละหลัง และบางส่วนที่ตอกเสาเข็มแล้วเสร็จได้มีการเริ่มสร้างบ้านแล้ว จำนวน 3 หลัง จากบ้านที่เสียหาย 76 หลัง.











อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :