2 ทศวรรษ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” หนึ่งในแคมเปญที่มีการพูดถึงมากที่สุด จาก สสส.

               กรุงเทพฯ - สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รณรงค์ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” มาตลอดระยะเวลา 20 ปี เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งไม่ดี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม โดยหยิบยกข้อดีของการไม่ให้และไม่รับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญมาใช้สื่อสารอย่างกระทบใจ จนสร้างแคมเปญ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” อยู่คู่กับสังคมไทยได้สำเร็จ แคมเปญนี้ทรงพลัง นอกจากกลับมาทุกครั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ยังสร้างจุดเปลี่ยนทำให้การให้เหล้าในโอกาสอื่นๆ หายไปอีกด้วย ช่วยแก้ปัญหาได้ผลจริงและส่งเสริมสุขภาพคนไทยให้ดีขึ้น

    น.ส.สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” ว่าเป็นโครงการที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2551 มีเป้าหมายเปลี่ยนค่านิยมการให้เหล้าเป็นของขวัญ ซึ่งฝังรากลึกมานานว่าเหล้าเป็นของขวัญที่ดี มีราคาแพง และนักดื่มชอบใจที่ได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยสื่อสารสร้างค่านิยมใหม่ แอลกอฮอล์เป็นสิ่งไม่ดี จุดตั้งต้นเริ่มจากขับเคลื่อน “กระเช้าปลอดเหล้า” คนให้ความสนใจ แต่ไม่ชนะกระเช้ามีเหล้า ด้วยทัศนคติราคาไม่สูงและไม่มีความพิเศษ จึงปรับกลยุทธ์สื่อสารถอยกลับมาที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ดีต่อสุขภาพ การให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญเป็นสิ่งที่ไม่ดี ดื่มแล้วขับเกิดอุบัติเหตุ เปรียบเทียบว่า ให้เหล้าเท่ากับให้ความตาย เป็นการแช่งไม่ใช่การอวยพร นำมาสู่หัวใจสำคัญในการสื่อสาร “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง”

    “แคมเปญ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” ให้เวลากับการออกแบบและสร้างสรรค์ โจทย์คือต้องไม่ได้ตำหนิผู้ให้ แต่เน้นผลลัพธ์จากการให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญ ยุคแรกเนื้อหาโฆษณาสื่อไปที่โทษของเหล้า แต่ก็ยังซื้อให้เป็นของขวัญ รวมถึงกระตุ้นให้คนซื้ออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เหล้า เพราะให้เหล้าเท่ากับแช่ง สร้างสัญลักษณ์ให้เหล้าเหมือนให้พวงหรีด ไม่ใช่ทุกคนดีใจกับการได้เหล้าเป็นของขวัญ คนรับลำบากใจ คนใกล้ชิดก็เป็นห่วง แคมเปญนี้กระแทกใจ ผลตอบรับดีมาก เกิดกระแสการพูดถึงในวงกว้าง กระตุ้นให้คนกลัวการให้เหล้าเป็นการแช่งผู้รับ มีส่วนทำให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดขายตกลงไม่น้อย สะท้อนทัศนคติใหม่และความเชื่อคนในสังคมเปลี่ยนไป เชื่อมโยงกับมีการผลักดันกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เทรนด์การให้เหล้าเป็นของขวัญหมดไป” น.ส.สุพัฒนุช กล่าวเสริม

    ในฐานะผู้นำในการรณรงค์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักการสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. กล่าวถึงการรณรงค์ยุคถัดมาว่า สสส. ขับเคลื่อนร่วมกับจังหวัด ภาคราชการ ภาคเอกชนชั้นนำ เน้นสื่อสารรณรงค์ยุคนี้ไม่มีใครให้เหล้ากันแล้ว ยืนยันเหล้าเป็นของขวัญที่ไม่ดี ทำให้การสื่อสารทรงพลังมากยิ่งขึ้น ยังมีประเด็นสื่อสารเหล้านำไปสู่สิ่งที่ไม่ดี เสี่ยงต่อสุขภาพ ทำให้ป่วยเป็นโรคต่างๆ  กินเหล้าเป็นต้นเหตุเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลต่อครอบครัว นำไปสู่ความรุนแรงในบ้าน ต่อมาขยับมาสื่อสารมีเนื้อหาห่วงใยกันต้องไม่ให้เหล้าเป็นของขวัญ ยุคนี้ของขวัญไม่ต้องแพง แค่ไม่แช่งก็พอ เลือกของขวัญที่ใส่ใจกัน ส่วนแคมเปญปี 2565 สื่อสารด้วยเนื้อหาการขอบคุณที่ไม่ให้เหล้า เป็นการขอบคุณคนไทยที่ไม่ให้เหล้า เพราะสังคมมีความสุขได้แม้ไม่มีเหล้า 

    จากวันแรกถึงวันนี้ผ่านกาลเวลา 20 ปี การสื่อสาร “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” น.ส.สุพัฒนุช กล่าวสรุปว่า จุดเริ่มต้นแคมเปญ “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” ได้สร้างค่านิยมว่าแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เป็นของขวัญในช่วงเทศกาล และเป็นจุดตั้งต้นให้กับอีกหลายโอกาสที่ไม่จำเป็นต้องให้เหล้า ทั้งเทศกาลปีใหม่ งานแห่งความยินดี วันเกิด วันขึ้นบ้าน งานบวช  เปิดกิจการใหม่ ฉลองร้านใหม่ ฉลองเลื่อนตำแหน่งใหม่ไม่มีใครให้เหล้า ล่าสุด สสส. สื่อสารประเด็นใหม่กับคนในยุคนี้ทุกการฉลองไม่ให้เหล้าเป็นของขวัญ แสดงถึงพัฒนาการของการสื่อสาร มุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างการจดจำ ทุกการฉลองไม่ให้เหล้า สนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้คนมีทางเลือกในการฉลองวาระต่างๆ ตอกย้ำเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ รู้จักและเห็นความสำคัญของการให้เหล้าเท่ากับแช่ง รวมถึงสื่อสารการดื่มอย่างรับผิดชอบนั้นไม่มีอยู่จริง เชื่อว่าแคมเปญนี้ติดอยู่ในใจทุกคนเสมอมา

    “ให้เหล้าเท่ากับแช่ง วลีนี้ทรงพลังมาก คนไทยเปลี่ยนค่านิยม ให้เหล้าไม่ใช่ของขวัญพรีเมียม ไม่ใช่สิ่งที่ดี สร้างค่านิยมใหม่ได้ แก้ปัญหาสังคมได้ แคมเปญนี้อยู่ทุกกลุ่มของสังคม เด็กและเยาวชนเติบโตมาในยุคที่ไม่มีใครให้เหล้ากันแล้ว วัฒนธรรมใหม่ที่สร้างขึ้นมาจะไม่หายไป ส่วนแนวทางสื่อสารต้องสร้างการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงสังคม รวมถึงผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ที่มีรูปแบบใหม่ๆ พูดถึงผลกระทบจากการดื่มด้วยวิธีการใหม่ๆ ออกแบบไม่ให้น่าเบื่อ เป็นโจทย์ยาก เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงสื่อสารการดื่มอย่างรับผิดชอบนั้นไม่มีอยู่จริง เน้นสร้างความตระหนักดื่มเหล้าแล้วเกิดผลกระทบอย่างไร เพื่อให้ตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” น.ส.สุพัฒนุช กล่าวเสริม

    ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. แนะเคล็ดลับซื้อของขวัญเทศกาล งานฉลองต่างๆ แทนใจส่งมอบความสุขให้ญาติผู้ใหญ่ หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน ครอบครัวและคนรัก ที่คนรับต้องว้าว! ว่า เลือกซื้อของขวัญที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของขวัญที่มีคุณค่าแทนการให้เหล้า เลือกของขวัญที่คนรับชอบและใช้ประโยชน์ได้ ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ควรคำนึงถึงปัญหาสุขภาพของผู้ที่จะได้รับด้วย เพราะสุขภาพที่ดีเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุด.