8 คู่รักสงขลา เดินขึ้นเขาพิสูจน์รักแท้ ก่อนจดทะเบียนวันวาเลนไทน์

สงขลา-วันแห่งความรักสงขลาคึกคัก 8 คู่รัก จับมือเดินขึ้นเขาคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เพื่อพิสูจน์รักแท้ และจดทะเบียนสมรส ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุข

บรรยากาศ ช่วงเช้ามืดวันที่ 14 ก.พ. 67 เวลา 09.00 น.นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย 8 คู่รัก เดินขึ้นเขาคูหา ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เพื่อจดทะเบียนสมรส และเป็นบทพิสูจน์ความงดงามของความรัก ความอดทนของคู่รัก คู่บ่าวสาว ที่จะร่วมกันฝ่าฟันสภาพเส้นทางที่แสนยากลำบากและอุปสรรคนานัปการตลอดเส้นทางระหว่างเดินขึ้นไปจดทะเบียน ภายใต้สโลแกน “14 กุมภา เขาคูหา มาบอกรัก” พร้อมกันนี้ คู่สมรสได้ร่วมกัน “ปักหลักโค” ด้วยการเอาหลัก หรือไม้ผูกวัวที่ผ่านพิธีศักดิ์สิทธิ์มาเขียนชื่อคู่รัก แล้วปักลงบนดิน ซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่าจะเป็นหลักเป็นฐานและจะเป็นคู่กันอย่างนี้ตลอดไป

จากนั้น ในเวลา 09.39 น. นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการจดทะเบียนสมรสเนื่องในเทศกาลแห่งความรัก และโครงการเทศกาลดนตรีรักษ์เขาคูหาMountain Love ประจําปี 2567 โดยมีนางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ นายประกอบ จันทสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลคูหาใต้ นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครู นักเรียน ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายประกอบ จันทสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลคูหาใต้ ในนามผู้จัดโครงการฯ กล่าวว่า ด้วยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีถือเป็นวันแห่งความรัก (Valentine's day) อำเภอรัตภูมิ ร่วมกับ เทศบาลตำบลคูหาใต้ จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการจดทะเบียนสมรส เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก และโครงการเทศกาลดนตรีรักษ์เขาคูหาMountain Love ประจำปี 2567 โดยจัดให้มีการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายบนเขาคูหา ซึ่งมีคู่รักที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 8 คู่รักโดยกิจกรรมภายในงาน มีการแสดงดนตรี และเปิดพื้นที่การแสดงดนตรีของเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวซึ่งเป็นพื้นฐานของความมั่นคง ในชีวิตทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อให้เกิดสิทธิต่างๆตามกฎหมาย

พร้อมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอรัตภูมิ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การจัดเทศกาลดนตรียังกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ตำบลคูหาใต้มากยิ่งขึ้น สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ.