AAV ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 กำไรจากการดำเนินงานหลัก 1,640.3 ล้านบาท
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ไลฟ์สไตล์-บันเทิง, ทั่วไป, ท่องเที่ยว, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 14 พ.ค. 2567, 13:45 น. อ่าน : 364AAV ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567
กำไรจากการดำเนินงานหลัก 1,640.3 ล้านบาท EBITDA เป็นบวกที่ 3,094.2 ล้านบาท ขนส่งผู้โดยสารสูงที่
5.5 ล้านคน
กรุงเทพฯ -
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (“AAV”) ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ
บจ.ไทยแอร์เอเชีย (“TAA”) เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 13,793.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 52
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย EBITDA เป็นบวกต่อเนื่อง
อยู่ที่ 3,094.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 78 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ตัวเลขรายงานยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่
(409.1) ล้านบาท
เหตุจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าทางบัญชี จำนวน (2,049.4) ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบกับกระเเสเงินสดของบริษัท
อย่างไรก็ตามหากไม่คิดรวมผลขาดทุนดังกล่าว ทำให้ไตรมาสที่ 1
นี้ AAV มีกำไรจากการดำเนินงานฟื้นตัวอย่างมาก อยู่ที่ 1,640.3 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน (203.2) ล้านบาท
ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ผลดำเนินงานในไตรมาสที่
1 ปี 2567 TAA ขนผู้โดยสารอยู่ที่ 5.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีฝูงบินรวมอยู่ที่ 56 ลำ
โดยนำเครื่องบินมาปฏิบัติการบินแล้ว 50 ลำ
และได้เปิดให้บริการเที่ยวบินใหม่ในไตรมาส คือ หาดใหญ่-สิงคโปร์ และดอนเมือง-เกาสง
โดยภาพรวม ปริมาณที่นั่งกลับมาฟื้นตัวที่ร้อยละ 90
ปริมาณผู้โดยสารกลับมาที่ร้อยละ 93
เมื่อเทียบในช่วงเดียวกันก่อนโควิด
นายสันติสุข
คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย
กล่าวว่า “ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ปีที่เเล้ว โดยไตรมาสนี้มีอัตราขนส่งผู้โดยสารรวม
สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ร้อยละ 93
และมีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศปลายเดือนมีนาคม แตะร้อยละ 40 สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ตอกย้ำการเป็นแบรนด์เเละผู้นำที่เเข็งเเกร่ง
ด้วยฝูงบินใหญ่มีเครื่องบินให้บริการมากกว่าคู่แข่ง
พร้อมจุดเด่นด้านความตรงต่อเวลา
ผนวกกับการทำการตลาดกับลูกค้าภายในประเทศในกลุ่มต่างๆ
ทำให้ไทยแอร์เอเชียของเราอยู่ในการรับรู้ของลูกค้าอยู่ตลอด
สำหรับตลาดระหว่างประเทศในไตรมาสนี้สามารถเติบโตน่าพอใจเช่นกัน
โดยเฉพาะการได้รับประโยชน์จากนโยบายยกเลิกวีซ่าระหว่างประเทศไทยและจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทำให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งขาเข้าเเละขาออก ในขณะที่ตลาดอินเดีย
อาเซียน ไต้หวัน เเละญี่ปุ่น ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ TAA
ยังเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ๆ ท้ายไตรมาส อาทิ เส้นทาง
ดอนเมือง-ปักกิ่ง เส้นทางบินสิทธิ Fifth Freedom บินเเวะรับส่งผู้โดยสาร
อีก 2 เส้นทาง คือ “ดอนเมือง-ไทเป-โอกินาวา” และ
“ดอนเมือง-เกาสง-โตเกียว (นาริตะ)” ซึ่งจะเริ่มบินในไตรมาส 2
นี้ ถือเป็นโอกาสในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ” นายสันติสุข กล่าว
ทั้งนี้ TAA
ยังคงทำงานหนักร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อนำพานักท่องเที่ยวเข้าไทย
กระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ แคมเปญ AirAsia Boarding Pass Privileges ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถนำบัตรโดยสารแอร์เอเชีย
แลกรับส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร สินค้า บริการ ได้กับ 18
พาร์ทเนอร์ของไทย เพิ่มมูลค่าในการเดินทางยิ่งขึ้น
สำหรับในไตรมาส 2 ปี 2567 แม้จะเข้าสู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว เเต่ TAA ได้เตรียมเเผนกระตุ้นการเดินทางทั้งเส้นทางภายในเเละระหว่างประเทศ พร้อมประเมินเเผนเพิ่มความถี่บินในเส้นทางบินจีนยอดนิยมซึ่งน่าจะทยอยเพิ่มได้ในต้นไตรมาส 3 ในขณะที่นโยบายภาครัฐในการเจรจาเพิ่มโควต้านักท่องเที่ยวอินเดีย คาดว่าจะมีข่าวที่เป็นบวกกับอุตสาหกรรมในเร็วๆ นี้ โดยอยู่ระหว่างรอการสรุปและจัดสรรที่นั่งเพิ่มจากทางสำนักงานการบินพลเรือนเเห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม
ตลอดปี 2567
TAA ยังคงเป้าจะขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 20-21
ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยที่ร้อยละ 90
มีรายได้จากการขายและบริการ เติบโตร้อยละ 20-23
เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมคงแผนขยายฝูงบินเป็น 60 ณ
สิ้นปีนี้.