“ทราย สก๊อต”โพสต์ภาพ“ปูเสฉวนในฝาขวดสุรา”
หมวดหมู่ : กระบี่, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 18 พ.ย. 2565, 09:32 น. อ่าน : 725กระบี่-“ทราย สก๊อต” หนุ่มนักอนุรักษ์ทะเล สร้างความแปลกตาแปลกใจให้ชาวไทยและนักอรุรักษ์ เมื่อโพสต์ภาพ ปูเสฉวนในฝาขวดสุรา สะท้อนปัญหาขยะทะเลที่ต้องเร่งแก้ปัญหา คนเห็นแล้วสะเทือนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย. นายสิรณัฐ หรือทราย สก๊อต อายุ 26 ปี ทายาทตระกูล “ภิรมย์ภักดี” นักอนุรักษ์ทะเลในฐานะ ประธานโครงการ SEA YOU STRONG นำภาพสะเทือนความรู้สึกของบรรดานักอนุรักษ์ เป็นภาพของปูเสฉวนตัวหนึ่ง กำลังใช้ฝาขวดสุรายี่ห้อหนึ่ง เป็นบ้านแทนเปลือกหอย โดยเจ้าตัวระบุข้อความไว้ เป็นข้อความที่สะท้อนความรู้สึกของคนที่รักทะเล เปรียบเทียบให้เห็นปัญหาของขยะในท้องทะเล ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของสัตว์ทะเลอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะปูเสฉวน ที่อาศัยอยู่ตามชายหาดหลายแห่ง ต้องใช้เศษขยะจากน้ำมือมนุษย์ มาเป็นบ้านแทนเปลือกหอยธรรมชาติ ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองสงสารเจ้าปูเสฉวน ต้องรับผลกรรมจากน้ำมือของมนุษย์
นายสิรณัฐ หรือทราย สก๊อต ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ติดต่อสัมภาษณ์ถึงที่มาของภาพดังกล่าว ทราบว่า ภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นภาพที่ทีมงานนักดำน้ำจิตอาสา บันทึกไว้ขณะออกไปจัดกิจกรรมเก็บขยะใต้ทะเล และบริเวณแนวชายหาดที่เกาะราชาน้อย จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะที่ทีมงานกำลังเดินเก็บขยะอยู่ตามแนวชายหาด ก็ไปเห็นปูเสฉวนตัวดังกล่าว ที่หลบอยู่ในซอกหินริมหาด สิ่งที่สะดุดตาคือ ปูเสฉวนตัวดังกล่าว ไม่ได้ใช้เปลือกหอยเป็นที่อาศัยเหมือนปกติทั่วไป แต่กลับใช้ฝาขวดสุราเป็นบ้านแทนเปลือกหอย
“สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเห็นและสะเทือนใจมากๆ เลย คือการได้เห็นสัตว์น้ำไร้บ้าน ไร้ที่อยู่อาศัย ขนาดปูเสฉวนเองยังต้องอาศัยอยู่ในฝาขวดสุรา ซึ่งธรรมชาติของปูเสฉวน เขาควรได้เลือกบ้านด้วยตัวเอง ที่เป็นเปลือกหอยที่สวยงาม มีขนาดที่เหมาะสมกับตัวเขา แต่วันนี้เขากลับต้องมารับผลจากน้ำมือมนุษย์ มารับผลในสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อหลายครั้งที่เราเห็นปูเสฉวนต้องเลือกขยะมาเป็นบ้าน เพราะหาดทรายที่เขาอาศัย มีขยะเยอะมาก ขณะที่คนมักจะนำเอาเปลือกหอยกลับไปทำเป็นเครื่องประดับ แทนที่จะทิ้งไว้ให้สัตว์ทะเลได้ใช้ตามระบบนิเวศน์ จึงอยากให้หน่วยงานรัฐ ให้ความสำคัญกับการคัดแยกขยะอย่างจริงจัง รวมทั้งคนทั่วไป เลิกทิ้งขยะลงในแม่น้ำลำคลอง ซึ่งขยะเหล่านั้นจะถูกน้ำพาลงสู่ทะเลทั้งสิ้น” นายสิรณัฐกล่าว.