ธงชาติไทยคลุมรับศพตำรวจกล้า กลับสู่มาตุภูมิ จ.ตรัง

หมวดหมู่ : ตรัง,

อ่าน : 1,536
ตรัง รับศพกลับสู่มาตุภูมิ
ธงชาติไทยคลุมรับศพตำรวจกล้า กลับสู่มาตุภูมิ จ.ตรัง

ตรัง-ธงชาติไทยคลุมศพตำรวจกล้า "ส.ต.อ.อนุสรณ์  นุ่นปาน” รับศพกลับสู่มาตุภูมิ จ.ตรัง อย่างสมเกียรติผู้เสียสละ หลังถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีใช้ระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมบ์ขว้างใส่ แม่ไร้น้ำตาบอกภาคภูมิใจในวาระสุดท้ายลูกชายได้ทำเพื่อชาติ ด้านชาวตรังร่วมรับศพและไว้อาลัยร่างไร้วิญญาณผู้กล้า  

        เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2564 เวลา 16.00 น. ที่โรงเรียนต้นบากราษฎร์บำรุง ม.7 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้จัดกองเกียรติยศ เพื่อรับศพ ส.ต.อ.อนุสรณ์ นุ่นปาน อายุ 31 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา  ท่ามกลางครอบครัวและญาติมิตรมารับศพกันอย่างโศกเศร้าต่อการเสียชีวิตเพื่อชาติในครั้งนี้

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปท่ามกลางความโศกเศร้า เมื่อเฮลิคอปเตอร์ได้นำร่าง ส.ต.อ.อนุสรณ์ นุ่นปานแตะพื้นสนามร่างถูกคลุมด้วยธงชาติไทยเพื่อกลับมาสู่บ้านเกิด โดยมีเจ้าหน้าตำรวจกองเกียรติยศทำพิธีรับศพตำรวจกล้ารายนี้อย่างสมเกียรติและความภาคภูมิ ก่อนจะมีพิธีสงฆ์ และเคลื่อนศพขึ้นรถมูลนิธิกุศลสถานตรัง ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของบรรดาญาติพี่น้องน้ำตาอาบแก้มที่เห็นโลงศพของตำรวจกล้าโดยยังคงทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่ไร้น้ำตาของผู้เป็นพ่อและแม่แม้แต่หยดเดียว ประชาชนในพื้นที่และต่างพื้นที่กว่า 100 ชีวิต ได้เดินทางมาเพื่อรับศพและไว้อาลัยกว่า 100 ชีวิต หลังจากนั้นได้นำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาที่ วัดไร่พรุ หมู่ 4 ตำบลน้ำผุดอำเภอเมือง จังหวัดตรัง

        นางอุไรวรรณ นุ่นปาน มารดาของตำรวจกล้า กล่าวอย่างไร้น้ำตาว่า รู้สึกเสียใจพูดอะไรไม่ออก แต่ตนก็ต้องทำใจลูกของเราไปรับใช้ชาติ เขาตั้งใจทำมานานแล้ว เขาทำตามหน้าที่ ตนก็ได้พูดกับสามีด้วยว่าอย่าร้องไห้ อย่าได้มีน้ำตาไหลออกมา ตนรู้สึกภูมิใจในตัวลูกคนนี้เพราะเขาทำดีที่สุดแล้ว โดยนิสัยส่วนตัวของลูกเป็นคนดี พูดเพราะ คนรอบข้างชอบ พูดจาดีกับทุกคน ทำตัวดีเสมอการเป็นตำรวจถือเป็นความตั้งใจของลูก สำหรับผู้ตายถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะตนมีลูกเพียงคนเดียวถือว่าขาดเสาหลักของบ้านไป

        “คำพูดสุดท้ายที่เราได้คุยกับลูกคือลูกชายโทรมาถามว่ามีเงิน ลูกไม่ไม่มีเงินจะจ่าย ฉันก็บอกไปว่าไม่ค่อยมีแต่ก็สงสารลูก และได้โอนไปให้ลูกใช้จ่าย จำนวน 1,000 บาท ทุกครั้งที่ลูกโทรมาขอเงินก็ได้โอนให้เสมอ ฉันก็ได้ให้ลูกไป แต่ส่วนใหญ่ลูกจะขอในยามจำเป็นเท่านั้น ส่วนลูกมีภาระครอบครัว รวมถึงผ่อนค่าใช้จ่ายต่างๆจึงทำให้ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ ฉันก็ไม่เคยถามเงินเดือนลูกว่าได้เท่าไร แต่เคยเห็นในแฟ้มงานเมื่อ 2-3 ปีก่อนได้เงินเดือนเดือนละ 26,000 บาท ขอแค่ลูกทำงานอยู่ได้ฉันก็หายห่วงจะไม่ขอเป็นภาระเพิ่มให้ลูกหลังจากนี้คงต้องต่อสู้ต่อไป” นางอุไรวรรณ กล่าว

        สำหรับประวัติของตำรวจกล้ารายนี้ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 245 หมู่ที่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เป็นบุตรคนเดียวของ นางอุไรวรรณ นุ่นปาน มีภรรยาและมีบุตรสาว 2 คน ศึกษาอยู่ชั้น ป.6 และ ป.3 เป็นคนที่ชื่นชอบในอาชีพตำรวจมาตั้งแต่เด็ก และได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร จนกระทั่งปลดประจำการ และได้สอบต่อเข้ารับราชการนายสิบตำรวจ 

        ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้เสียชีวิต สืบเนื่องจาก  คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ขับขี่รถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ใช้ระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมบ์ขว้างใส่จุดบริการประชาชน สภ.จะก๊วะ ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่โรงพักหลายนัด และขับขี่รถ จยย.หลบหนีมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อย่างรวดเร็ว.