นราธิวาสยังอ่วม น้ำท่อม 9 อำเภอ-ผวจ.ระดมระบายน้ำช่วยประชาชน

นราธิวาส-ฝนซาลงแต่น้ำยังท่วม 9 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส ผวจ.ลงตรวจพื้นที่ สั่งระบายน้ำเมืองเศรษฐกิจ ทางด้านชาวบ้านบางส่วนเฮได้กินปลาน้ำจืดหลังชาวประมงงดออกทะเล

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า ล่าสุดสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วัน ได้เบาบางลงและทิ้งช่วงบ้างแล้ว แต่ยังคงมีสภาวะน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนเป็นวงกว้าง กินพื้นที่ 9 อำเภอ คือ 1. อำเภอระแงะ 2.อำเภอเมืองนราธิวาส 3. อำเภอบาเจาะ4. อำเภอยี่งอ 5.อำเภอเจาะไอร้อง 6. อำเภอรือเสาะ 7.อำเภอศรีสาคร 8.อำเภอสุไหงโก-ลก และ 9. อำเภอสุไหงปาดีรวม 35 ตำบล 171 หมู่บ้าน 7 ชุมชน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 6,235 ครัวเรือน รวม 25,262 คน

สำหรับอำเภอที่มีปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนมากที่สุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส คือ อำเภอบาเจาะ46 หมู่บ้าน รองลงมาคือ อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอยี่งอ ซึ่งน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนอำเภอละ 31 หมู่บ้าน ส่วนอำเภอที่มีน้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด คือ อำเภอสุไหงปาดี 1 หมู่บ้านคือ หมู่บ้านโคกสะตอ ม.7 ต.สุไหงปาดี 

หลังจากสภาวะฝนที่ตกทิ้งช่วงและเบาบางลง ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย ที่มีปริมาณน้ำฝนได้ไหลระบายลงไปสู่ท้องทะเล ล่าสุด แม่น้ำสายบุรีมีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.36 เมตร แม่น้ำบางนรา สูงกว่าตลิ่ง0.07 เมตร และแม่น้ำโก-ลก มีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.06 เมตร และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 สาย จากผลพวงของสำนักงานกรมชลประทานที่ 17 และสำนักงาน ปภ.จ.นราธิวาส ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 8 นิ้ว ถึง 30 นิ้ว จำนวน 23 เครื่อง ในการเร่งผันน้ำลงสู่ทะเลด้านอำเภอเมืองนราธิวาสและด้านอำเภอตากใบ

ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกเพื่อติดตามการติดตั้งเครื่องสูบน้ำของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 ที่เข้าสนับสนุนในการระบายน้ำที่ชุมชนท่าโรงเลื่อย ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ประชาชนอาศัยปลูกสร้างบ้านเรือนที่บริเวณแนวริมตลิ่งของแม่น้ำโก-ลก ซึ่งมีสภาวะน้ำท่วมขังโดยภาพรวมสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 50 ซ.ม. จากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม และปริมาณน้ำในแม่น้ำโก-ลก แม้จะมีระดับต่ำกว่าตลิ่ง แต่ได้มีการรั่วซึมเข้าทางท่อระบายน้ำของแต่ละชุมชน 

จากสภาวะแรงดันน้ำในแม่น้ำโก-ลกที่มีระดับน้ำสูงกว่า ให้ระบายน้ำท่วมขังได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากชุมชนทั้ง7 ชุมชน ถือว่าเป็นช่องทางข้ามธรรมชาติจุดผ่อนปรน ที่ชาวไทยและชาวมาเลเซียมีวิถีชีวิตดั่งเดิม ไปมาหาสู่ในการค้าตามแนวชายแดนซึ่งกันและกัน เปรียบเสมือนเส้นทางเศรษฐกิจของ อ.สุไหงโก-ลกแห่งหนึ่ง

ผลพวงของสภาวะน้ำท่วมขังโดยภาพรวม หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ยังคงจัดกำลังพลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 41 กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำรถยนต์บรรทุกประปาเคลื่อนที่ออกผลิตน้ำแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ได้นำไปอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นอกจากนี้ผลพวงจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆ แถวริมคลองหรือแม่น้ำรวมทั้งไร่นา ยังพลอยมีรายได้เสริม โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส ด้วยการออกตระเวนจับปลาน้ำจืด อาทิปลาซ่อน ปลาดุก ปลาตะเพียน ที่มากับกระแสน้ำ นำไปวางขายและขายอีกทอดหนึ่งให้กับพ่อค้าแม่ มาตั้งแผงจำหน่ายบริเวณริมถนนสายนราธิวาส ตันหยงมัส ซึ่งในแต่ละวันมีไม่เพียงกับผู้บริโภค และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่มีราคาถูก ซึ่งในช่วงระยะนี้ได้รับประทานปลาน้ำจืด แทนปลาทะเลที่ชาวประมงไม่สามารถออกไปจับปลากลางทะเลได้.