พระ-ชาวบ้านรอเก้อ สนง.ศิลปากรที่ 12 ไม่ส่งคืน พระลากไม้ อายุ 100 ปี
หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 25 ก.ค. 2565, 20:00 น. อ่าน : 1,050นครศรีธรรมราช-พระและชาวบ้าน คอยเก้อเตรียมสถานที่รอรับพระลากไม้จาก สนง.ศิลปากรที่ 12 แต่สุดท้ายแห้วสนง.ศิลปากรที่ 12 ยังไม่กล้าส่งคืนอ้างหลักฐานยังไม่ครบ 100% ทั้งที่มีหลักฐานชัดแจ้งถึง 95% แต่ยังยึกยัก
กรณีพระและชาวบ้านวัดมัชฌิมภูมิ หรือวัดเกาะหัวบ้านหรือวัดกำแพงโคก หมู่ 1 ต.บางจาก อ.เมืองจ.นครศรีธรรมราช ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช ส่งคืนพระลากไม้อายุกว่า 100 ปีของวัดที่สูญหายไปจากวัดเมื่อปี 2554 และมีผู้ไปพบถูกทิ้งไว้ในลำคลองในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองจ.นครศรีธรรมราชเมื่อปี2556 ก่อนที่ทางตำรวจส่งพระลากไม้ที่พบไปให้ทางสำนักกรมศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราชเก็บรักษา แต่ต่อมาทางพระและชาวบ้านเชื่อว่าพระลากไม้ที่พบน่าจะเป็นของวัดที่สูญหายไป เพราะมีลักษณะเหมือนพระลากที่สูญหายไป จึงติดต่อขอรับคืนพระลากกลับมายังวัดเหมือนเดิมนั้น แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้รับพระลากกลับคืนวัดแต่อย่างใด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า พระมหาธงชัย โอภาโส เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมภูมิ หรือวัดเกาะหัวบ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางสำนักกรมศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราชและทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการตั้งคณะกรรมการประชุมพิจารณาเพื่อส่งมอบคืนพระลากให้กับวัดมัชฌิมภูมิ มาหลายครั้งแล้ว จนการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา มีนางเรืองอุไร บุญช่วยชูพันธ์ รอง ผวจ.นครศรีธรรมราชร่วมประชุม มีมติที่ประชุมว่าจะส่งมอบพระลากให้กับวัดมัชฌิมภูมิ ภายใน30 วันนับแต่วันปิดประกาศประชาสัมพันธ์หาวัดที่ประสงค์แสดงความจำนงเป็นเจ้าของพระบากที่แท้จริงอีกครั้ง หากไม่มีวัดใดแจ้งความจำนงความเป็นเจ้าของวัดพระลาก ทางสำนักกรมศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราชก็จะส่งมอบคืนพระลากให้กับวัดมัชฌิมภูมิทันที แต่มีข้อตกลงว่าหากได้รับพระลากกลับวัดแล้วห้ามมีการตกแต่ง ดัดแปลงเปลี่ยนแปลงสภาพพระลากภายใน 1 ปี หากมีวัดใดคัดค้านและนำหลักฐานมาแสดงที่เพียบพร้อมกว่า ทางวัดฌิมภูมิก็จะต้องส่งมอบให้กับวัดนั้น โดยไม่มีข้อแม้ ซึ่งทางวัดก็ตอบตกลงเงื่อนไขดังกล่าว
เมื่อใกล้จะถึงเวลานัดหมายส่งมอบคืนพระลาก ทางวัดมัชฌิมภูมิได้ติดต่อทวงไปยังสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราชอีกครั้ง ทางสำนักศิลปากรที่ 12ฯได้ให้ข้อมูลกลับมาว่า ทางสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราชได้ทำหนังสือไปยัง ผวจ. นครศรีธรรมราช เพื่ออนุมัติส่งคืนพระลากแต่ทาง ผวจ.นครศรีธรรมราชกลับไม่ลงนามอนุมัติโดยทาง ผวจ.นครศรีธรรมราชให้เหตุผลว่าให้ทางสำนักศิลปากรที่ 12 หาข้อกม.ที่รองรับที่จะส่งคืนพระลากของกลางที่มีหลักฐานไม่ครบ100%มาแสดงก่อน จึงขอให้ทางวัดหาหลักฐานมาเพิ่มเติมจนครบ100%
อาตมาขอเรียนที่ผ่านมาทางวัดและชาวบ้านได้พยายามหาพยานหลักฐานเต็มที่แล้วมาแสดงได้ถึง95% ขาดเพียง 5% ซึ่งเป็นฐานพระพุทธรูปที่ขาดหายไปทางวัดไม่สามารถหาได้อีก จึงอยากให้ทางจังหวัดและสำนักกรมศิลปากรที่ 12 ได้เห็นแก่ทางวัดและชาวบ้านด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าพระลากองค์นี้เป็นของวัดแน่นอน”พระมหาธงชัย โอภาโส กล่าว
ด้านนายอาคม สุวรรณปากแพรก อายุ 51 ปี อดีตรองนายก อบต.บางจากและอดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางจากซึ่งเป็นแกนนำในการติดตามพระลากมาโดยตลอดว่า เมื่อ3เมษายนที่ผ่านมา พระและชาวบ้านเมื่อทราบข่าวจะได้รับพระลากคืนจากกรมศิลปากร ต่างดีอกดีใจมากจึงได้มีการเตรียมจัดสถานที่และติดตั้งห้องแก้วได้รอรับพระลากไม้ของวัดกลับคืนวัดกันอย่างคึกคัก แต่พอทราบข่าวว่าทางกรมศิลปากรยังไม่สามารถส่งคืนพระลากให้กับวัดได้ เพราะแค่มีหลักฐานเพียง 95% ทำให้ชาวบ้านและพระต่างก็ใจหายและเสียใจไปตามๆกัน เนื่องจากหลักฐาน 95% ก็ถือว่ามากพอแล้ว อยากให้ทางจังหวัดและกรมศิลปากรได้เข้าใจและเห็นใจชาวบ้านและพระของวัดด้วย เพราะหลักฐาน5%ที่เป็นฐานพระพุทธรูปหาไม่ได้จริงๆ.