รมว.ยุติธรรม ส่งทีมงานลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลแก้ปัญหาให้คนชายแดนใต้

หมวดหมู่ : นราธิวาส, ทั่วไป,

อ่าน : 423
รมว.ยุติธรรม แก้ปัญหาให้คนชายแดนใต้
รมว.ยุติธรรม ส่งทีมงานลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลแก้ปัญหาให้คนชายแดนใต้

นราธิวาส-รมว.ยุติธรรม ส่งเลขานุการและทีมงาน พร้อมด้วยประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นำคณะลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลแก้ปัญหาให้คนชายแดนใต้ ยืนยัน พ.ร.ก.เป็นกฎหมายเข้าถึงคนร้ายไม่ใช่ป้องกันเหตุ


     เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 66 เวลา 09.00 น. นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุยชน และทีมงานของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรมว.ยุติธรรมและ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ร่วมเดินทางมารับฟังปัญหาข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม 4 หน่วยงานหลักที่ขึ้นตรง อาทิ สำนักงานคุมประพฤติ จ.นราธิวาส, สำนักงานบังคับคดีจ.นราธิวาส, เรือนจำ จ.นราธิวาส, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.นราธิวาส และ สำนักงานยุติธรรมจ.นราธิวาส ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยในสังกัด รวมไปถึงผู้อำนวยการส่วนต่างๆ เข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 20 คน โดยใช้เวลานานร่วม 3 ชั่วโมง ที่ห้องประชุมเรือนจำ จ.นราธิวาส


     การประชุมได้ข้อสรุปปัญหาต่างๆ เพื่อรวบรวมให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้นำไปพิจารณาแก้ไขปัญหาที่ค้างคามานาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม อาทิ ค่าตอบแทนพิเศษของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ได้โควต้าจากจังหวัดไม่มีเหมือนหน่วยงานอื่นๆ ค่าเดินทางไปราชการต้องควักกระเป๋าตัวเอง รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในสำนักงานเสื่อมสภาพ ต้องควักกระเป๋าตัวเองซื้อมาใช้ทดแทน โยเฉพาะอย่างยิ่งเรือนจำจ.นราธิวาส ซึ่งถือว่าเป็นเรือนจำที่ใหญ่มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของเครื่องสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สูงกว่าเรือนจำปกติ ที่ไม่มีงบใช้จ่าย ที่สำคัญไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียและต้องใช้เงินก้อนโตในการก่อสร้าง


     นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นเวลานานกว่า 20 ปี มีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนเยอะ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับคน 3 จังหวัด จริงๆแล้วกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาคเรื่องสิทธิมนุษยชนเยอะที่สุด และถูกกระทำมากที่สุดตั้งแต่มีกฎหมายพิเศษ 2 ฉบับด้วย วันนี้จะทำอย่างไรให้เรื่องนี้กลับมา ในการต่อสู้ไม่ใช่ว่าจะใช้อำนาจอะไร ท่าน รวม.ยุติธรรมกำชับว่าต้องใช้หลักยุติธรรม มาใช้แก้ปัญหาต่างๆต้องแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย วันนี้เราไม่สามารถจะทำหรือยกเลิกกฎหมายพิเศษอะไร หรือแม้จะยกเลิกบางส่วน ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หมด วันนี้ความรู้สึกความเหลื่อมล้ำการใช้อำนาจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ก็จะทำอย่างไรให้กฎหมายเหล่านี้เสมอภาคให้เท่าเทียมกันทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยนี้


     ด้านนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุยชน กล่าวว่ากำหนดระยะเวลาในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าก่อนการครบกำหนดจะมีการประชุม ซึ่งโดยหลักการแล้วเชื่อว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินควรมีการยกเลิก ซึ่งวิธีการที่จะยกเลิกนั้นจะมีการยกเลิกเพียงครั้งเดียวหรือทยอยยกเลิกซึ่งต้องมีการมาคุยกัน และเชื่อว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีอำนาจพิจารณาต่อ พ.ร.ก.เป็นมติของครม. น่าจะส่งเสียงสะท้อนว่าตอนนี้เท่าที่ทราบข้อมูลโอกาสที่จะยกเลิกครั้งเดียวนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเราเองก็เข้าใจหลายๆฝ่าย ซึ่งการยกเลิกนั้นอย่างน้อยต้องหามาตรการอย่างอื่นรองรับด้วยในคราวเดียวกัน 


      “พ.ร.ก.ไม่ใช่เป็นมาตรการหรือกฎหมายในการป้องกันการกระทำผิด แต่เป็นกฎหมายป้องปราม นั่นหมายความว่ากฎหมายในการปราบปราม ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแล้วสามารถเข้าถึงผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อเหตุได้ง่ายเป็นเครื่องมือในการใช้หลังเกิดเหตุ ไม่ใช่เครื่องมือในการใช้ป้องกัน เพราะฉะนั้นถ้าจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.จะต้องมีมาตรฐานป้องกัน ซึ่งจะต้องใช้มาตรการอย่างอื่น แต่อย่างน้อยยังมีกฎอัยการศึกอีก 7 วัน อำนาจของฝ่ายทหารก็ยังคงมีอยู่ในพื้นที่ และยังมี พ.ร.บ.ความมั่นคงอีก ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่มี พ.ร.ก.แล้ว จะไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตามไปด้วย” นายกมลศักดิ์กล่าว.