“หาดทิพย์” ติดทำเนียบ หุ้น ESG100 เป็นปีที่ 6
หมวดหมู่ : ภาพข่าวสังคม, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 28 ส.ค. 2566, 02:12 น. อ่าน : 880 กรุงเทพฯ - บริษัท
หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) รับมอบประกาศนียบัตร ESG100 Company ประจำปี 2566 ในฐานะบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากสถาบันไทยพัฒน์
จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2566
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 พลตรีพัชร รัตตกุล (ซ้าย)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) รับมอบประกาศนียบัตร ESG100
Company ประจำปี 2566
ในฐานะบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
จาก นายพิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ขวา) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ณ
บมจ.หาดทิพย์ สำนักงานกรุงเทพฯ
บริษัท หาดทิพย์
จำกัด (มหาชน) (HTC) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมภายใต้เครื่องหมายการค้า
“โคคา-โคลา” “แฟนต้า” “สไปรท์,” และผลิตภัณฑ์อื่นที่โคคา
-โคลา คัมปะนี เป็นเจ้าของ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้มินิทเมด
และน้ำดื่มน้ำทิพย์ ใน 14 จังหวัดภาคใต้
ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100
ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental,
Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี
พ.ศ.2566 โดยสถาบันไทยพัฒน์
พลตรีพัชร รัตตกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) (HTC)
ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2566 ด้วยการคัดเลือกจาก 888 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
(Agro & Food Industry) และบริษัทมีรายชื่ออยู่ในทำเนียบ
ESG100 เป็นปีที่ 6 (พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2562-2566)
“บริษัทเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างให้องค์กรมีการเติบโตอย่างมั่นคง โดยยังคงมุ่งมั่นในการผลิตสินค้าและบริการอย่างมีคุณภาพ มีการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้บริโภค คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งได้ดำเนินธุรกิจตามกรอบการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ขององค์กรสหประชาชาติ ตลอดจนมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ชุมชนพึงได้รับอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”
ทั้งนี้
การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม
และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน
การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้
ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน
เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป.