อปท.ภูเก็ต เซ็น MOU กับกรมที่ดิน-จุฬาฯ พัฒนา ระบบบริการเก็บภาษี-ข้อมูลที่ดิน
หมวดหมู่ : ภูเก็ต, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 20 พ.ค. 2565, 17:00 น. อ่าน : 603ภูเก็ต-กรมที่ดิน ลงนาม MOU ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต พัฒนาระบบการให้บริการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อีกทั้งสามารถสืบค้นข้อมูลที่ดิน นำไปประเมินราคากู้เงินกับสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 พ.ค.2565) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังเก่า) กรมที่ดิน ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ การบูรณาการพัฒนาการให้บริการเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน ตัวแทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ตลอดจน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการบูรณาการพัฒนาการให้บริการเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่าง กรมที่ดิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต โดยกรมที่ดินได้พัฒนา Application LandsMaps ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบจัดการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง CU -TaxGO ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระบบจัดการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ประชาชนสืบค้นกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลฉลอง เทศบาลตำบลวิชิต เทศบาลตำบลราไวย์ เทศบาลตำบลรัษฎา เทศบาลตำบลกะรน องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว เทศบาลตำบลป้าคลอก เทศบาลตำบลศรีสุนทร เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี เทศบาลตำบลเชิงทะเล องค์การบริหารส่วนตำบลสาคู องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว องค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล เทศบาลเมืองกะทู้ เทศบาลเมืองป่าตอง และองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา
อธิบดีกรมที่ดินกล่าวต่อไปว่า กรมที่ดินได้ให้บริการ Application LandsMaps โดยประชาชนสามารถค้นหารูปแปลงที่ดินและรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน ได้ทั่วประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านระบบอินเทอร์เน็ท ช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจใช้เป็นข้อมูลเบื้องตันประกอบการตัดสินใจในการพิจารณาจะซื้อจะขายที่ดิน ตรวจสอบพื้นที่ที่ดิน เพื่อนำไปประเมินราคาในการกู้เงินกับสถาบันการเงิน และใช้ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับที่ดินและทรัพย์สินของตนเองได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ใช้ในการวางแผนเพื่อบริหารจัดการกับที่ดินของตนเอง และที่ต้องการจะซื้อจะขายเพื่อขยายธุรกิจในอนาคตได้ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าใช้งานในระบบมากกว่า 94 ล้านครั้ง
สำหรับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการบริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถเพิ่มช่องทางให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของประชาชน และเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการ เทคโนโลยีและสร้างเครือข่ายการทำงานอันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน.