“เซเว่น อีเลฟเว่น” ชนะคดีกรณีถูกกล่าวหาก็อปปี้สินค้าบานาน่า
หมวดหมู่ : ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 8 ก.ย. 2564, 23:32 น. อ่าน : 1,361 ตามที่ เมื่อวันที่
21-22 เมษายน 2558 บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ผู้บริหาร เซเว่น
อีเลฟเว่น ถูก นายชิน รติธรรมกุล (“นายชินฯ”) เขียนและเผยแพร่บทความหมิ่นประมาท จำนวน
2 ตอน ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นในทำนองว่า บริษัทฯ เป็นบริษัทใหญ่ แต่ไปรังแกผู้ประกอบการรายย่อยที่เสนอสินค้าเข้ามาขายในร้านสะดวกซื้อ
7-11
ด้วยการลอกเลียนสูตรสอดไส้ครีมคัสตาร์ดรสกล้วยของผู้ประกอบการรายย่อย แล้วนำไปทำการค้าหาประโยชน์เอง
อันเป็นการรังแกเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อย
โดยบทความดังกล่าวถูกส่งต่อในสังคมออนไลน์ และเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลาย
ในเวลาอันรวดเร็ว
ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ในการประกอบการของบริษัทฯ
ตลอดมานั้น
บริษัทฯ
จึงได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่ นายชินฯ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ
ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328
ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และเสนอสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการ
ต่อมา
พนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องนายชินฯ เป็นจำเลย
ข้อหาหมิ่นประมาทตามบทกฎหมายดังกล่าว ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่
อ.2843/2559 ซึ่งนายชินฯ ได้เปิดเผยความจริงว่า นายชินฯ
ได้รับข้อมูลและเนื้อหาบทความดังกล่าวมาจาก นางสาว พ. โดยที่นายชินฯ
เองก็ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่
และได้จัดทำบทความไปโดยไม่เคยสอบถามความเป็นจริงจากบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ
ได้แสดงหลักฐานในการดำเนินคดีให้เห็นว่า บริษัทฯ
ไม่มีการกระทำใดที่จะไปกระทำหรือเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อยตามที่กล่าวหาในบทความ
ซึ่งนายชินฯ ได้ทำหนังสือแสดงความรู้สึกเสียใจและขอโทษบริษัทฯ ต่อหน้าศาล
โดย นายชินฯ ยินดีที่จะแก้ไขฟื้นฟูความเสียหายของบริษัทฯ
ด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความและจะเผยแพร่บันทึกประนีประนอมยอมความระหว่างบริษัทฯ
กับ นายชินฯ และเอกสารย่อคำฟ้องคดีอาญา (“บันทึกฯ”)
ที่แสดงถึงเหตุการณ์ในเรื่องนี้ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 29
มีนาคม 2560 และจะลงติดต่อกับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 รายละเอียด บันทึกฯ
ปรากฏตามเอกสารแนบ
บริษัทฯ
จึงได้แสดงน้ำใจโดยไม่ต้องการดำเนินคดีกับบุคคลที่ได้รู้สำนึก
และไม่ใช่ตัวการที่แท้จริง ด้วยการถอนคำร้องทุกข์ไม่ติดใจดำเนินคดีอาญาและไม่ติดใจเรียกค่าเสียหายจากนายชินฯ
คดีจึงได้ระงับไปตามคดีอาญาแดงที่ อ.987/2560 แต่นายชินฯ
กลับไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ (“สัญญาฯ”)
ที่ได้กระทำต่อหน้าศาลดังกล่าว บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องฟ้องนายชินฯ ในข้อหาผิดสัญญาฯ
ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.860/2560
เมื่อวันที่ 31
สิงหาคม 2564 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดังกล่าว
และคดีถึงที่สุดแล้ว โดยศาลพิพากษาว่า นายชินฯ เป็นฝ่ายผิดสัญญาฯ และนายชินฯ
ต้องลงประกาศบันทึกฯ ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 30
วันนับแต่ได้รับคำบังคับต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 8 เดือน 26 วัน นายชินฯ
ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 80,000 บาท
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5
ต่อนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่บริษัทฯ ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชน และเรียนย้ำต่อคู่ค้าของบริษัทฯ ได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัทฯ และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงการใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลใดๆ ในสังคมออนไลน์รวมตลอดถึงเพื่อป้องปรามมิให้บุคคล หรือกลุ่มบุคคลอื่นใด แสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยการใส่ความผู้อื่น หรือการทำการตลาดด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่เกิดกับบริษัทฯ อีกต่อไปด้วย.