เบตงเปิดเทศกาลถือศีลกินเจ นักท่องเที่ยวไทย-มาเลย์ คึกคัก
หมวดหมู่ : ยะลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 26 ก.ย. 2565, 10:58 น. อ่าน : 726ยะลา-อำเภอเบตง เปิดงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2565 กลางเมือง ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมงานกันคึกคัก
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.65 เสลา 16.10 น. พลเอกมณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษรัฐบาลและที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2565 ที่บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลาโดยมีนายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตงและประธานชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีนเบตง นายเชาวเลิศ วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ ประธานวัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง หัวหน้าส่วนราชการ คณะม้าทรง พี่เลี้ยงและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ในช่วงพิธีเปิดมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและมาเลเซีย ที่ผ่านไปมาต่างให้ความสนใจ และหยุดดูพิธีกรรมต่างๆในการเปิดงานเทศกาลกินเจ
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตงและประธานชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีนเบตง กล่าวว่าวัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง (วัดกวนอิม) ได้จัดงานเทศกาลกินเจมาเป็นเวลา 11 ปี จุดเริ่มต้นมาจากชมรมอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นจีนอำเภอเบตง และ ดร.คุณวุฒิ มงคลประจักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตงและประธานวัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตงในขณะนั้น เล็งเห็นถึงความสำคัญประเพณีถือศีลกินเจ จึงมีความเห็นให้จัดงานเทศกาลกินเจเบตง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบัน โดยประเพณีกินเจของวัดกวนอิมและชาวไทยเชื้อสายจีนปฏิบัติด้วยความศรัทธา ยืดมั่นในศีล เว้นจากการฆ่าสัตว์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองและครอบครัว
การจัดงานปีนี้จัดเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 สำหรับพิธีกรรมและกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การทรงเจ้า แห่พระรอบเมือง การแสดงอิทธิฤทธิ์ของเหล่าม้าทรง เช่น การแทงปากเล่นอาวุธ พิธีลุยไฟ พิธีลุยกระเบื้อง พิธีเล่นน้ำมันเดือด พิธีสะเดาะเคราะห์ นอกจากนี้ความพิเศษของการจัดงานกินเจเบตง จะมีคณะม้าทรงและคณะสิงโตจากประเทศมาเลเซียมาร่วมงานเป็นประจำทุกปี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย
สำหรับปีนี้คณะม้าทรงและคณะสิงโตจากประเทศมาเลเซียจะมาร่วมในขบวนแห่เจ้ารอบเมือง ในวันที่ 1 ตุลาคม2565 ถือเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้านให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตงและยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของอำเภอเบตงให้คึกคักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีถือศีลกินเจของชาวไทยเชื้อสายจีนให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดและยังสามารถพัฒนาให้เป็นงานที่ได้รับความนิยมในระดับภูมิภาคต่อไป.