เรือนำเที่ยวระดับโลก นำนักเที่ยว 3,732 คน ลงภูเก็ต
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ภูเก็ต, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 29 ต.ค. 2565, 16:24 น. อ่าน : 761ภูเก็ต-จังหวัดภูเก็ตต้อนรับเรือสเปคตรัม ออฟ เดอะ ซีส์ (Spectrum of the seas) ที่นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ3,732 คน เยือนหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เป็นครั้งที่ 2 ส่งผลให้เกิดกากระตุ้นการท่องเที่ยว คาดมีเงินสะพัดกว่า 13 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565) เวลา 11:00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้มอบหมายให้ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ รอง ผอ.ศรชล. เดินทางมาเป็นประธานต้อนรับเรือสเปคตรัม ออฟ เดอะ ซีส์ (Spectrum of the seas) ที่เป็นเรือสำราญสัญชาติสหรัฐอเมริกาขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เข้ามาเทียบท่ายังจุดจอดเรืออ่าวป่าตองภูเก็ตเป็นครั้งที่ 2โดยมีนักท่องเที่ยวลงจากเรือ 3,732 คน แบ่งเป็น กรุ๊ปทัวร์ 750 คนส่วนตัว 2,982 คน เหลืออยู่บนเรือ อีกประมาณ 760 คนคาดมีเงินสะพักกว่า 13 ล้านบาท
ด้าน นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้แทนส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและเขตจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน และผู้แทนหน่วยงานในสังกัด ศรชล.ทั้ง 7 หน่วยงาน คือกองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ที่บริเวณอ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวต้อนรับ กัปตัน วู ฮุย หมิน และ น.ส.แองเจิล สตีเฟ่น รองประธาน Royal Caribbean International ความสำคัญตอนหนึ่งว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในโอกาสที่ได้มาต้อนรับทุกท่านและนักท่องเที่ยวอย่างใจจริง เป็นที่ทราบด้วยทั่วกันว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ เมื่อจังหวัดภูเก็ตได้รับการบรรจุไว้ในเส้นทางเดินเรือสำราญ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้การยอมรับและมีความพร้อมในต้อนรับนักท่องเที่ยวคุณภาพจำนวนมาก ให้กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือสำราญ ทั้งการพัฒนาท่าเรือแบบแวะพัก (Port of Call) และการพัฒนาท่าเรือต้นทาง (Home Port) ได้ถูกบรรจุไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนับเป็นการเพิ่มศักยภาพของไทยในการเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือสำราญเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความหลากหลาย ของบรรยากาศและท้องทะเลอันงดงามของไทย ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทย และฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ การท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเรือสำราญทั่วโลก
การได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือกับสายเรือสำราญระดับโลกอย่าง Royal Caribbean International จึงนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะเสริมสร้างศักยภาพของการท่องเที่ยวเรือสำราญในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวให้มีความโดดเด่น และก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรือสำราญที่สำคัญระดับโลก ในฐานะที่ ศรชล. ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ.2562 มาอย่างเข้มแข็ง ตระหนักดีว่าภารกิจพิทักษ์รักษาความมั่นคงทางทะเลนั้น จำเป็นต้องพึ่งพิงความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคมควบคู่ไปด้วย
ดังนั้น ศรชล. จึงระดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนการเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเล ด้วยการเปิดประตูทางทะเล ปลุกกระแสท่องเที่ยวทะเลไทยต้อนรับเรือสำราญจากนานาชาติที่จะนำพานักท่องเที่ยวเข้ามากระตุ้นการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ประมาณการว่าตลอดปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยราว 10 ล้านคน ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ จว.ภูเก็ต จะรับเรือสำราญ 3 ลำต่อสัปดาห์ คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการท่องเที่ยว เฉลี่ยลำละ 20 ล้านบาท
นอกจากนี้แนวโน้มจำนวนเรือสำราญที่จะเข้าประเทศไทยทั้งสองฝั่งทะเลจะเพิ่มมากขึ้นในปี 2566 อีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกต่างๆ ตามที่รัฐบาลได้ยกเลิกการตรวจสุขภาพก่อนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้อัตราเข้าพักโรงแรมต่างๆ เริ่มฟื้นตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงขอความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายร่วมกันทำงานเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทยอย่างเต็มกำลังความสามารถ.