"โกเงา” เผย ที่ดินวัดไม่ได้หาย ยังเป็นโฉนดของวัดมาแต่เดิมรวมทั้งถนน
หมวดหมู่ : กระบี่, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 11 เม.ย. 2565, 15:00 น. อ่าน : 737กระบี่-"โกเงา" แจงที่ดินวัดแก้ว ไม่ได้หาย แค่ขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงท้องถิ่น เพื่อให้เทศบาลฯ ช่วยเข้าไปดูแลให้ถนน 15 สายก็มีมาแต่เดิม การเช่าที่ดินและอาคารพาณิชย์ ผู้เช่าทำสัญญากับวัดโดยตรง
กรณีปมที่ดินวัดแก้วโกรวาราม (พระอารามหลวง) จ.กระบี่ ที่พระครูบุญเลิศ ธมฺมรกฺโข เจ้าอาวาสวัด ออกมาให้ข้อมูลว่าที่ดินของวัดที่ปล่อยให้เอกชนเช่า ถูกนำไปสร้างถนน 15 สาย แล้วยกให้เป็นพื้นที่ของทางหลวงท้องถิ่นโดยทางวัดไม่ได้ยินยอม โดยเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากมีผู้ร้องเรียนไปยัง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรคในการจัดบริการสาธารณะ กิจกรรมสาธารณะฯ สภาผู้แทนราษฎร ให้เข้ามาตรวจสอบนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้รีบเปิดเผยจาก นายกีรติศักดิ์ หรือโกเงา ภูเก้าล้วน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และตัวแทนบริษัท ศรีผ่องฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าไปเช่าที่ดินวัด เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2565 ว่าที่ดินของวัดในส่วนที่ใช้ก่อสร้างถนน 15 สาย ยังไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะประโยชน์ตามที่หลายคนเข้าใจผิดกัน พื้นที่ถนนยังเป็นที่ดินวัดเหมือนเดิม ทางกฎหมายจะเรียกที่ดินลักษณะนี้ว่าทางสาธารณะส่วนบุคคล ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด เพราะโฉนดที่ดินของวัดยังไม่มีการแบ่งหักออกมา โฉนดที่ดินวัดตัวต้นฉบับยังเป็นแปลนที่ดินผืนเดียว 202 ไร่ บริษัท ศรีผ่องฯ เข้าไปขอเช่าที่ดินเพียง 47 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นย่านการค้า ย่านชุมชน ที่ผ่านมาเทศบาลเมืองกระบี่ เพียงเสนอเรื่องไปยังจังหวัด ขอขึ้นทะเบียนถนน 15 สาย เป็นทางหลวงท้องถิ่น เพื่อให้เทศบาลฯ เข้าไปดูแลรักษาให้ เพราะวัดไม่มีศักยภาพที่จะดูแลรักษาได้เอง ทั้งเรื่องความสะอาด แสงสว่าง และการจราจร โดยในปี 2527 ผวจ.กระบี่ ในขณะนั้นเซ็นอนุญาตไว้ ที่สำคัญถนนทั้งหมดในบริเวณดังกล่าว เทศบาลฯ ไม่ได้เป็นผู้ก่อสร้าง แต่ทางบริษัทฯ ดำเนินการก่อสร้างเองด้วยงบของ บริษัทฯ ตามข้อตกลงในสัญญาเช่ากับวัด พื้นที่ดังกล่าวจึงยังเป็นที่ดินของวัดตามกฎหมาย
สำหรับสัญญาเช่าที่ดินระหว่างบริษัทฯ กับวัด นายกีรติศักดิ์ เผยว่าเป็นสัญญาเช่าเพื่อเข้าไปพัฒนาพื้นที่ โดยมีการวางผังกันตั้งแต่แรก ซึ่งในผังก็มีถนนอยู่ตั้งแต่แรก บริษัทฯ เข้าไปดำเนินการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ หลังก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ละเฟส ก็จะหาผู้เช่ามาเซ้งเช่ากับวัดโดยตรง บริษัทฯ จะได้กำไรจากค่าเซ้ง หลังหักกับค่าดำเนินการก่อสร้างเท่านั้น จากนั้นก็ยกให้เป็นสมบัติของวัด ให้วัดเป็นผู้เก็บค่าเช่าจากผู้เช่าเองโดยตรง ทุกอย่างมีเอกสารหลักฐานอยู่กับทางบริษัทฯ ทั้งหมด
นายกีรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนพื้นที่ตลาดสดมหาราช เดิมเป็นพื้นที่อยู่ในสัญญาเช่าของบริษัทฯ กับวัด ซึ่งบริเวณดังกล่าว ทางบริษัทฯ สามารถก่อสร้างอาคารพาณิชย์ได้ 70 คูหา แต่ต่อมาทางเทศบาลฯ ต้องการสร้างตลาดสด จึงแจ้ง ทางบริษัทฯ ว่าจะขอใช้พื้นที่ส่วนนี้ เนื้อที่ 7 ไร่ นายชวน ภูเก้าล้วน ตัวแทนบริษัทฯ จึงยอมตัดพื้นที่เช่าส่วนนี้ให้ โดยให้เทศบาลฯ ไปติดต่อเช่าโดยตรงกับวัด นอกจากนี้นายชวน ยังซื้อที่ดินเอกชนซึ่งอยู่ใกล้กันเพิ่ม แล้วยกให้วัดไปเพิ่มพื้นที่ให้เทศบาลฯ เช่าเพื่อใช้สร้างตลาด ตัวอาคารของตลาด รวมทั้งถนนรอบตลาด จึงอยู่ในพื้นที่เช่าที่เทศบาลฯ เช่าโดยตรงจากวัด เทศบาลฯ สามารถก่อสร้างเองได้ในพื้นที่ 7 ไร่ ดังกล่าว ยืนยันว่าทุกอย่างทำตามระเบียบกฎหมายไม่ได้นำที่ดินวัดไปยกให้เป็นทางสาธารณประโยชน์แต่อย่างใด ส่วนผู้ที่ไปเผยแพร่โจมตี กล่าวให้ร้ายสร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.