ชาวนราธิวาสร่วมใจละหมาดสร้างขวัญกำลังใจ-ตร.รู้ตัวคนซื้อรถคาร์บอมบ์แล้ว

นราธิวาส-ชาวนราธิวาสร่วมละหมาดฮายัตเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ขอพรให้ทุกคนปลอดภัย หลังคนร้ายวางคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ ส่วนคดีคืบหน้าไปมากแล้ว เจ้าของรถกระบะมาพบตำรวจให้รายละเอียดขายรถให้ใคร จนถูกนำมาเป็นคาร์บอมบ์

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 65 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายซุกรี ดอเล๊าะ โต๊ะครูสอนศาสนา ได้เป็นผู้นำประกอบพิธีละหมาดฮายัต ของตัวแทนผู้นำศาสนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส และข้าราชการตำรวจที่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวนกว่า 100 คน เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากพื้นที่ รวมทั้งขอพรจากพระเจ้าดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ และประชาชนไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธไทยมุสลิม หรือแม้แต่คนที่นับถือศาสนาอื่นๆก็ตาม ให้พ้นภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น 

พร้อมทั้งร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ หรือ ผู้กองอ๊อด และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว และชาวบ้านผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตที่พักของข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ประชาชนต่างเกิดอาการหวาดผวาเกรงชีวิตจะไม่ปลอดภัย โดยวิงวอนขอให้นำพาความสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่ในเร็ววันอีกครั้งให้เกิดความสันติสุขเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา

การประกอบพิธีละหมาดฮายัตในครั้งนี้ พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส ซึ่งถูกคำสั่งผบช.ภ.9 ให้ไปช่วยราชการศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนราธิวาส เนื่องจากมีผู้นำศาสนาต้องการพบตัว เพื่อปลอบโยนจากการถูกสั่งย้าย จากเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้

ด้านความคืบหน้าการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัว ทยอยเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยพยานส่วนหนึ่งให้การว่าพบเห็นคนร้ายที่กำลังเดินออกจากแฟลตหลังจากจอดรถยนต์กระบะคาร์บอมบ์ที่เป้าหมายแล้ว และอีกส่วนหนึ่งไม่พบเห็นแต่จะรู้สึกอีกครั้งเมื่อระเบิดทำงานเสียดังสนั่นหวั่นไหว 

ส่วน น.ส.ฟาตียะ ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะที่ได้ขายไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือมาดูวงจรปิดที่จับภาพพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ ใส่เสื้อยืดสีเทาแขนสั้น และใส่กางเกงขายาวสีดำหรือสีกรม แถมยังใส่เข็มขัดสนามและพกอาวุธปืนที่เอว เพื่ออำพรางตัวตนให้คล้ายกับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นบุคคลที่ซื้อรถยนต์กระบะไปจากตนเองหรือไม่ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาลงโทษ โดยไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดได้ เกรงคนร้ายจะไหวตัวหลบหนี หลังจากที่ น.ส.ฟาตียะ ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่แล้วเสร็จ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้กลับไป.