นครศรีธรรมราช- ผวจ.นครศรีธรรมราช เตรียมใช้เทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา เปิดอีเว้นท์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พัฒนาการจังหวัด และเยี่ยมชมกิจการทอผ้า ศูนย์ทอผ้ายกบ้านมะม่วงปลายแขน ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโอทอประดับ 5 ดาว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา เพื่อให้กำลังใจแก่กลุ่มผู้ผลิตโอทอปจังหวัดนครศรี
ธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับศูนย์ทอผ้ายกบ้านมะม่วงปลายแขน เป็นกลุ่มทอผ้ายกเมืองนคร ที่ได้สืบทอดกันมานานกว่า 30 ปี ผ้าที่ทอจะเป็นลายสมัยโบราณที่ได้มีการหยิบยืมผ้าสมัยโบราณมาจากวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อศึกษาและดำเนินการทอตามลายสมัยโบราณ ซึ่งใช้สืบต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน มีนางละออง บัวเพ็ชร และนางมณี บัวเพ็ชร์ เป็นเจ้าของศูนย์ คุณลักษณะพิเศษของผ้าทอของกลุ่มทอผ้ายกบ้านมะม่วงปลายแขน มีลายที่หลากหลาย เช่น ลายพิกุลเล็ก ลายเมล็ดข้าว ลายผีเสื้อต่อตัว ลายพิกุลก้างปลา ลายจันทร์ล้อม ลายพิมพ์ใหญ่ ลายราชวัตร ลายสับปะรด เป็นต้น ราคาตั้งแต่หลาละ 350-2,500 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายและการทอใส่ดิ้น p****ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มทอผ้ายกบ้านมะม่วงปลายแขน ได้รับผลกระทบเหมือนกับผู้ประกอบการอื่น ๆ ยอดขายตกลงประมาณ 50 % กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการ นอกจากผ้าทอแล้วทางกลุ่มได้มีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วยเช่น กระเป๋าถือสำหรับผู้หญิง หน้ากากผ้าทอ ผ้าขาวม้า เป็นต้น
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้ ตนได้มีการหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมจัดอีเว้นท์แรกของนครแห่งอารยธรรม หลังโควิด-19 คลี่คลาย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว คือการจัดงานเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งมีเวลาในการเตรียมงานเพื่อเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนนครศรีธรรมราชประมาณ 1 เดือน
“เราต้องดำเนินการพร้อมกันทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับการต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น การทำความสะอาดอาคารสถานที่ต่าง ๆ ถนนหนทาง สถานีขนส่งผู้โดยสาร สนามบิน สถานประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น ต้องเตรียมสินค้าและบริการ ของฝากของที่ระลึกต่าง ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น สินค้าโอท็อป ที่ต้องรักษามาตรฐานและคุณภาพของสินค้าด้วย แต่ราคาต้องไม่สูงเกินไปเพื่อให้สามารถขายสินค้าเพื่อให้อยู่รอดได้” นายศิริพัฒ กล่าว.
