ผวจ.สงขลาเผยรู้ตัวกลุ่มขุดทำลายหัวเขาแดงแล้ว
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 3 มี.ค. 2565, 21:55 น. อ่าน : 979สงขลา- ผวจ.สงขลาเผยรู้ตัวกลุ่มบุกรุกขุดทำลายหัวเขาแดงแล้ว รอขออนุมัติหมายศาลจับกุม ตอนนี้เร่งแก้ปัญหาให้ จนท.สำนักศิลปากรที่ 11 เร่งบูรณะซ่อมแซมฐานเจดีย์เขาแดง และจะทำพิธีสักการะเสาร์นี้ ส่วนเรื่องคดีมีการแจ้งความดำเนินดีที่ สภ.สิงหนครแล้ว รู้ตัวแล้ว 1 คน เป็นเจ้าของรถ ส่วนที่เหลือรอรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาที่สุด
กรณีเมื่อช่วงปลาย ก.พ. สำนักศิลปากรที่ 11 ตรวจสอบพบกลุ่มนายทุนลักลอบนำเครื่องจักรขุดทำลายบริเวณหัวเขาแดง ซึ่งเป็นเขาสูง ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา และเป็นพื้นที่ที่กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานบริเวณเมืองเก่าสงขลา ครอบคลุมเนื้อที่ราว 2,460 ไร่ ได้รับความเสียหาย โดยมีการโค่นล้มต้นไม้ และตัดถนนเป็นทางยาวขึ้นเขาประมาณ 2 กิโลเมตร กว้าง 4 เมตร และยังมีฐานองค์เจดีย์บนเขาแดงชำรุดเสียหายบางส่วน จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีการลักลอบทำมานานไม่ต่ำกว่า 3 เดือน เนื่องจากไม่พบทั้งตัวบุคคลและเครื่องจักรอยู่ในจุดเกิดเหตุ และทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หลังได้รับรายงานได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีนายอำเภอ ตำรวจ สภ.สิงหนคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 11 นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้ (2 มี.ค.2565) นายจตุพร เขียวเจริญ ส.อบจ.สงขลา เขต 1 ได้ร่วมกับชาวบ้านบางส่วน ขึ้นสำรวจความเสียหายอีกครั้งและได้กำชับชาวบ้านช่วยตรวจขันคนแปลกหน้าและให้ช่วยกันระวังไม่ให้เกิดการบุกรุกอีก นายจตุพรกล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาถ้ามองจากด้านล่างจะมองไม่เห็นในการบุกรุกป่า ตนเองก็พอทราบว่ากลุ่มนายทุนคือกลุ่มใด แต่ตรงนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย ส่วนตนเองพร้อมชาวบ้านเตรียมจะหาต้นไม้มาปลูกทดแทน “เสียใจในการกระทำของกลุ่มนายทุนมาก ทำแล้วได้ประโยชน์อะไรทำแล้ว ตอนทำไม่คิด ผมกับชาวบ้านเสียใจจริงๆ ขอปกป้องแทนพี่น้องสิงหนครคร โดยไม่กลัวอิทธิพลใดๆเลยขอให้สัญญา” นายจตุพรกล่าว
ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้แยกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเกี่ยวกับองค์เจดีย์บนเขาแดงที่ได้รับความเสียหายบริเวณฐานเจดีย์จากการลักลอบเข้าไปขุดเจาะ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 11 และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้เริ่มเข้าไปบูรณะซ่อมแซมฐานองค์เจดีย์เขาแดง และทำตามขั้นตอน รวมถึงพิธีการต่างๆของกรมศิลปกรแล้ว และคาดว่าน่าจะเสร็จในวันเสาร์นี้ และตนจะเดินทางไปร่วมทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และดำเนินการในส่วนของพิธีการต่างๆ ให้เสร็จสมบูรณ์ในวันเสาร์นี้เช่นเดียวกัน
สำหรับส่วนที่ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดี ซึ่งวานนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 11 ได้นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร แล้ว และยืนยันว่าคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ทราบตัวแล้ว 1 คน เป็นเจ้าของรถ และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาล จ.สงขลา ออกหมายจับ คาดว่าน่าจะได้ในวันศุกร์นี้ ซึ่งตนได้กำชับให้ทางพนักงานสอบสวนและตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนามากที่สุด รวมทั้งจะมีการแถลงในรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งในวันศุกร์นี้ด้วย
นายเจษฏากล่าวอีกว่า จังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะเร่งสะสางคดีนี้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งได้วางแผนการป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยร่วมกับชุมชน โดยมอบหมายให้นายอำเภอเป็นเจ้าภาพหลักในการประสานงานร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ในการช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีใครลักลอบเข้ามาทำลายโบราณสถานในลักษณะนี้อีก โดยได้มอบนโยบายเป็นแนวทางการปฏิบัติไว้ในที่ประชุมคณะกรรมการจังหวัดเมื่อครั้งที่ผ่านมาขอความร่วมมือทุกภาคส่วนหากพบการบุกรุกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถาน หรือทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะในพื้นที่ไหนก็ตาม ให้รีบแจ้งทางจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ เพื่อเร่งเข้าทำการตรวจสอบ และยับยั้งได้ทันเวลา.