ภูเก็ต- กงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศต่างๆประจำจังหวัดภูเก็ต ขอบคุณและชื่นชมจังหวัดภูเก็ตที่ดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีและมีมาตราการการป้องกันไวรัสโควิเ-19 ได้ดีทำให้ไม่มีผู้ติดเชื้อกว่าหนึ่งเดือนแล้ว
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต ได้จัดประชุมร่วมกับกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศต่างๆประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือและรับฟังความคิดเห็นต่อทิศทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ของจังหวัดภูเก็ต คลี่คลาย ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563โดยมีกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์จาก 16 ประเทศ เข้าร่วมประชุมด้วย
นาย ภัคพงศ์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ของจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมานั้น มีผู้ติดเชื้อจำนวน 227 ราย ขณะนี้รักษาหายกลับบ้านแล้วทำให้ไม่มีผู้ติดเชื้อรักษาตัวที่โรงพยาบาล และปัจจุบัน ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ต่อเนื่องติดต่อกัน เป็นเวลา กว่า1เดือนแล้ว ในส่วนของการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตเดินทางกลับมาตุภูมิแล้วกว่า 2,827 คนใน 24 ประเทศ
สำหรับแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและประเทศขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยการกู้เงินจำนวน 1 ล้านล้านบาทโดยแบ่งเป็นแผนงานด้านการสาธารณสุข 45,000 ล้านบาทแผนงานโครงการเยียวยา 555,000 ล้านบาทและกรอบวงเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท
จากนั้นกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมจังหวัดภูเก็ตที่ให้การดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นอย่างดี โดยนักท่องเที่ยวยังคงมีความเชื่อมั่นและอยากจะเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตอีกเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งได้แสดงความคิดเห็นต้องการให้จังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรมนำคณะทูตจากประเทศต่างๆเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เห็นภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ต
นายภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า จังหวัดได้เตรียมโครง
การดังกล่าวไว้และได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยคาดว่าเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจะสามารถดำเนินการโครงการต่างๆได้ต่อไป ส่วนข้อเสนอที่อยากจะให้กระทรวงการต่างประเทศมีการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เกิน 30 วันในกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทย หากมีการจัดทำโครงการ Medical Hub สำเร็จเกิดเป็นรูปธรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จะดำเนินการร่วมกับสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวจังหวัดภูเก็ตเพื่อเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศให้พิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป.