กรุงศรี เดินหน้ากลยุทธ์กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น-บรรษัทข้ามชาติ รุกสร้างระบบนิเวศเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, ทั่วไป, กรุงเทพฯ,
โฟสเมื่อ : 26 เม.ย. 2567, 15:32 น. อ่าน : 355กรุงเทพฯ - กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) โดย กลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) เผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2567 ตอกย้ำความเป็นผู้นำธนาคารพันธมิตรที่กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นไว้วางใจ พร้อมเดินหน้าพันธกิจในการสร้างความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามกรอบ ESG และการเติบโตของสตาร์ทอัพ ให้การสนับสนุนการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน และมุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก
นายบุนเซอิ โอคุโบะ
ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC
Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“ในปีที่ผ่านมา
กลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติประสบความสำเร็จในการส่งมอบผลการดำเนินงานอย่างเป็นที่น่าพอใจ
โดยยังคงครองความเป็นผู้นำในการเป็นธนาคารหลักสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นอย่างแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกันก็ทำงานร่วมกับ MUFG ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศทั่วโลก
เพื่อส่งมอบโซลูชันที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเงิน บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ
หรือองค์ความรู้ต่างๆ รวมถึงเปิดเวทีสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนผ่านการจัดงานสัมมนา
และการจับคู่ทางธุรกิจ
โดยมีกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมหนักอย่างธุรกิจพลังงาน โลหะ
ผลิตภัณฑ์เคมี ไปจนถึงอุตสาหกรรมเบาอย่างผู้ให้บริการทางการเงิน
แพลตฟอร์มการบริการจัดส่งพัสดุ สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น”
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี
2567
กรุงศรียังคงสานต่อเป้าหมายในการเป็นธนาคารพันธมิตรที่จะช่วยสร้างความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้าธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ
โดยมีมุมมองสำคัญในการดำเนินงาน 4 ด้านประกอบไปด้วย
1.เร่งส่งเสริมระบบนิเวศด้านความยั่งยืน
(ESG Ecosystem) ให้กับสังคมไทย
โดยอาศัยจุดแข็งในการมีความรู้ ความชำนาญในด้าน ESG ผ่านความร่วมมือกับ
MUFG เพื่อนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืนที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน โดยเมื่อช่วงต้นปี
ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Deposit) บัญชีเงินฝากประจำเพื่อใช้สนับสนุนทางการเงินให้กับโครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน
ร่วมขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนในประเทศไทย
ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าและคาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีในปีนี้
เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เรื่อง ESG ให้กับลูกค้า
ทั้งยังเดินหน้าสร้างเครือข่ายความร่วมมือ พร้อมให้การสนับสนุนองค์กร
และหน่วยงานต่างๆ
ที่มีวิสัยทัศน์และพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
2.ต่อยอดความร่วมมือเพื่อส่งเสริมระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ
(Startup Ecosystem) โดยจะขยายความร่วมมือเพิ่มเติมกับ สปป.
ลาว และเวียดนาม
เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่เอื้อต่อสังคม
ชุมชน ทั้งในประเทศไทยและอาเซียน โดยในปีนี้จะมีการจัดงาน Japan-ASEAN
Startup Business Matching อย่างต่อเนื่องหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในปีก่อน
เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจสู่ตลาดระดับสากล ดึงดูดนักลงทุน สร้างตำแหน่งงาน
พร้อมช่วยกระตุ้นให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
3.ขยายฐานลูกค้าบรรษัทข้ามชาติจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก
(East Asian Economies) ด้วยพื้นฐานและปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนในประเทศไทย
ทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ที่ดึงดูดการลงทุนจากกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยเฉพาะจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และเกาหลี
กรุงศรีจะใช้โอกาสนี้ทำงานร่วมกับ MUFG ในการให้คำปรึกษา
ช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจจากกลุ่มประเทศที่ต้องการเข้ามาลงทุนและขยายการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย
4.ยกระดับบริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจ Krungsri ASEAN LINK เชื่อมทุกความต้องการทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยกรุงศรีพร้อมใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสานพลังเครือข่ายธุรกิจของธนาคาร และ MUFG ที่ครอบคลุม 9 ใน 10 ประเทศในอาเซียน อาทิ Danamon Bank ในอินโดนีเซีย VietinBank ในเวียดนาม และ Security Bank ในฟิลิปปินส์ เพื่อต่อยอดบริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจสำหรับลูกค้าที่ต้องการขยายธุรกิจสู่อาเซียน ตั้งแต่ในขั้นตอนเริ่มแรก เช่น การสำรวจแปลงที่ดิน การรวบรวมข้อมูลและกฎระเบียบ จนถึงการจัดตั้งและดำเนินการทางธุรกิจในต่างประเทศ โดยในปีนี้ กรุงศรีมีแผนในการจัดงานสัมมนา และกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกับธนาคารพันธมิตรเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้และโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจจะขยายธุรกิจในอาเซียน
“เราเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถอันโดดเด่นและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีจากการประสานพลังเครือข่ายของกรุงศรี ธนาคารพันธมิตร และ MUFG จะช่วยให้ลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติสามารถคว้าโอกาสและขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีแห่งความยั่งยืน และสำคัญที่สุดคือช่วยผลักดันให้เกิดความยั่งยืนทางศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศต่อไป” นายโอคุโบะ กล่าวทิ้งท้าย.