ต้อนรับ”นักกีฬาพาราไทย”ชุดสุดท้าย เดินทางกลับ ประทับใจ-พักผ่อนต่อที่ภูเก็ต
หมวดหมู่ : กีฬาอื่นๆ, ภูเก็ต, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 8 ก.ย. 2564, 20:00 น. อ่าน : 1,243ภูเก็ต-จังหวัดภูเก็ตจัดอบอุ่น ต้อนรับคณะนักกีฬา และผู้ควบคุมทีมพาราไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขัน "โตเกียวพาราลิมปิกเกมส์ 2020" ประเทศญี่ปุ่น ชุดสุดท้ายเดินทางกลับจากการแข่งขัน มากักตัวและพักผ่อน เป็นที่ประทับใจของนักกีฬาทุกคน
นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นำคณะนักกีฬา และผู้ควบคุมทีม “พาราไทย” ที่เข้าร่วมการแข่งขัน "โตเกียวพาราลิมปิกเกมส์ 2020" ที่ประเทศญี่ปุ่น ชุดสุดท้าย ประกอบด้วย นักกีฬา บอคเซีย, แบดมินตัน, วิลแชร์, เทนนิส และยิงปืน เดินทางถึงสนามบินภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน SQ 726 จากประเทศสิงคโปร์ วันที่ 8 ก.ย.2564 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำโดยนายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, นายชูเกียรติ์ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับทัพนักกีฬาไทยและผู้ควบคุมทีมเดินทางกลับมาชุดสุดท้าย รวมจำนวนทั้งสิ้น 55 คน อาทิ เจ้าของเหรียญทอง “บอคเซีย”ทีม บีซี 1-2 ประกอบด้วย นายวิษณุ ฮวดประดิษฐ์, นางสาว สุบิน ทิพย์มะนี, นายวัชรพล วงษา, นายวรวุฒิ แสงอำภา, เจ้าของเหรียญเงิน “แบดมินตัน หญิงเดี่ยว คลาด WH1” นางสาวสุจิรัตน์ ปุกคำ และเจ้าของเหรียญทองแดง แบดมินตันหญิงคู่ WH1-2 ประกอบด้วย นางสาวสุจิรัตน์ ปุกคำ และนางสาวเวชวิฐาน
ทันทีที่มาถึงสนามบินภูเก็ต ทัพนักกีฬาได้เข้าสู่กระบวนการเข้าเมือง และรับการตรวจสวอปตามมาตรการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ของจังหวัดภูเก็ต จากนั้นได้ร่วมพิธีลอดซุ้มธงชาติไทย และรับมอบช่อดอกไม้, มาสคอต "น้องจุ้ง" และช่อ “ดอกเฟื่องฟ้า” ซึ่งเป็น ดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งรับชมการแสดงต้อนรับแบบพื้นเมืองภูเก็ตชื่อชุด “รำลีลายั่วทับ” ก่อนจะเดินทางไปยังโรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น
ในการนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชิญดอกไม้พระราชทาน และสิ่งของพระราชทาน มอบให้นักกีฬาที่ได้รับเหรียญในแต่ละประเภทกีฬา และผู้ฝึกสอนด้วย
ขณะที่นายวัชรพล วงษา ตัวแทนนักกีฬาบอคเซีย กล่าวว่า รู้สึกดีใจจนยากที่จะบรรยายในความสำเร็จที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หลังจากนี้ก็จะต้องพัฒนาตัวเองเพื่อไปป้องกันแชมป์สมัยที่ 4 ให้ได้ ส่วนกรณีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาบางอย่างของบอคเซียนั้น เราก็ยังคงต้องเล่นตามกติกา และเราเองจะต้องพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอขอบคุณทุกฝ่ายที่จัดการต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนานักกีฬา และขอบคุณคนไทย ตลอดจนผู้สนับสนุนทุกภาคส่วน หลังอยากนี้ต้องการที่จะพักผ่อนอย่างเต็มที่ ยังไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ
นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับภาพรวมผลการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งหลังจบการแข่งขันไทยอยู่ในอันดับที่ 25 และเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปเอเชีย รองจากจีน (เจ้าทอง), ญี่ปุ่น, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน และอินเดีย หลังจากนี้ทางการกีฬาจะนำวิทยาศาสตร์ด้านการกีฬาเข้ามาช่วยดูแลนักกีฬาให้มากขึ้นหลังจากพบว่าการแข่งขันในครั้งนี้มีนักกีฬาหลายคนร่างกายบาดเจ็บ
ส่วนการสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้กับนักกีฬานั้นนายก้องศักดิ์ระบุว่ารัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะดำเนินการผลักดันบรรจุนักกีฬาผู้พิการ รวมถึงบุคลากรด้านการกีฬาให้เข้าทำงานของสถาบันรัฐที่มีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญเพราะเป็นการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาผู้พิการให้คนไทยได้รับชมเป็นครั้งแรกซึ่งผลตอบรับเป็นไปด้วยดีและขอให้คนไทยร่วมกันให้กำลังใจนักกีฬาผู้พิการในการแข่งขันครั้งต่อไปด้วยซึ่งทุกคนยังคงตั้งเป้าจะทำผลงานที่ดีขึ้นกว่าครั้งนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ในปีหน้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงกติกาการแข่งขันในกีฬาบางประเภทโดยเฉพาะกีฬาบอคเซียซึ่งประเทศไทยสามารถครองเจ้าเหรียญทองต่อเนื่องกันมาได้ถึง 3 สมัย ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนั้นต้องติดตามอีกครั้ง
นายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการผลักดันเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาชีพให้กับนักกีฬาว่า ก่อนที่คณะนักกีฬาและผู้ฝึกสอน เดินทางไปแข่งขัน ได้เข้าพบรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้แจ้งให้ทราบว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่านักกีฬาที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้ทุกคนจะต้องมีงานทำอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นการได้รับคำมั่นสัญญาและขวัญกำลังใจจากรัฐบาล จึงทำให้การแข่งขันครั้งนี้นักกีฬามีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะได้รับโอกาสในการทำงาน เพราะเดิมภาพของคนพิการจะไม่มีโอกาสทางการศึกษา หรือแม้ว่าจะมีโอกาสทางการศึกษาแล้วก็ไม่มีงานทำ แต่คณะรัฐบาลชุดนี้เห็นความสำคัญของการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และนโยบายที่ว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังก็เริ่มจะเป็นจริง และแม้แต่คนพิการก็ได้รับโอกาสนี้ ทำให้คณะกรรมการพาราลิมปิก และคณะกรรกมการสมาคมพิการขอขอบคุณรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่ให้นโยบายนี้มา ทำให้พวกเรามีกำลังใจและมั่นใจว่าจะไม่ถูกทอดทิ้งและถูกละเลย โดยจะเดินร่วมกันไปในสังคม.