ต้อนรับนักกีฬาพาราไทย กลับจากญี่ปุ่น เที่ยว”ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”

ภูเก็ต-ต้อนรับทัพนักกีฬาพาราไทยลุยศึก”พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อย่างอบอุ่น จัดให้พักผ่อน”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่ จ.ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำโดยนายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นายชูเกียรติ์ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับทัพนักกีฬาพาราไทยที่เดินทางกลับจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 

ทัพนักกีฬาไทยเดินทางกลับมาครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 68 คน นำโดย พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรสซิ่ง เจ้าของ 3 เหรียญทอง ซึ่งถือเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกไทยคนแรกที่สามารถทำได้สำเร็จ นอกจากนั้นยังมี อธิวัฒน์ แพงเหนือ นักกีฬาวีลแชร์เรสซิ่ง 100 เมตร เจ้าของ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ประวัติ วะโฮรัมย์ วิลแชร์เรชซิ่ง เจ้าของ 1 เหรียญเงิน และเจ้าของเหรียญทองแดง อย่าง รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เทเบิลเทนนิส บุคคลาชายคลาส 6, ภูธเรศ คงรักษ์ วิลแชร์เรชซิ่ง, ขวัญสุดา พวงกิจจา เทควันโด คลาส K44, เทเบิลเทนนิส ทีมชาย  อนุรักษ์ ลาววงษ์ , ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น และถิรายุ เชื้อวงษ์ รวมถึง พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ ผู้ฝึกสอนเทเบิลเทนนิส และนายสุพรต เพ็งพุ่ม ผู้ฝึกสอนวิลแชร์เรชด้วย  

หลังจากเดินทางถึงสนามบินภูเก็ต ทัพนักกีฬาได้เข้าสู่กระบวนการเข้าเมือง และรับการตรวจสวอปตามมาตรการ ภูเก็ต sandbox ของจังหวัดภูเก็ต จากนั้นได้ร่วมพิธีลอดซุ้มธงชาติไทย และรับมอบช่อดอกไม้, มาสคอต "น้องจุ้ง"  และช่อ “ดอกเฟื่องฟ้า” ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต  รวมทั้งรับชมการแสดงต้อนรับแบบพื้นเมืองภูเก็ตชื่อชุดระบำร่อนแร่ ก่อนจะเดินทางไปยังโรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ในการนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชิญดอกไม้พระราชทาน และสิ่งของพระราชทาน มอบให้นักกีฬาที่ได้รับเหรียญในแต่ละประเภทกีฬา และผู้ฝึกสอนด้วย

ด้านพงศกร แปยอ เจ้าของ 3 เหรียญทองจากการแข่งขันในครั้งเดียวเปิดเผยความรู้สึกว่า ดีใจและภูมิใจที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและประเทศไทย โดยสามารถทำลายสถิติได้ทุกรายการ รวมถึงขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และคนไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุน และส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาทุกคน เป้าหมายจากนี้อีก 3 ปีที่กรุงปารีส จะตั้งใจฝึกซ้อมและทำให้ดีเหมือนครั้งนี้ 

พงศกร กล่าวด้วยว่า ส่วนของอาหารหรือสิ่งที่จะรับประทานนั้น ขณะนี้ยังคิดไม่ออก เพราะยังเหนื่อย และขอขอบคุณสำหรับการจัดต้อนรับที่อบอุ่นของคนภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ส่วนเงินอัดฉีดที่ได้รับมานั้นยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรอย่างไร รวมถึงสิ่งที่จะทำในอนาคตก็ยังคิดไม่ออก และขอเก็บไว้ก่อน

ขณะที่นายอำนวย กลิ่นอยู่ รองประธานคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของนักกีฬาพาราไทย จากผลการแข่งขันไทยเป็นอันดับที่ 1 ในอาเซียน เป็นอันดับที่ 6 ในเอเชีย และอันดับที่ 25 ของโลกทั้งนี้ต้องขอบคุณรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุนทีมนักฬาพาราไทยที่มากเพียงพอจนทำให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งจากการส่งกำลังใจเชียร์จากคนไทยที่ติดตามผ่านการถ่ายทอดสดตามช่องทางต่างๆ และถือเป็นกำลังใจสำคัญให้กับนักกีฬาในการแข่งขันจนได้รับชัยชนะ นอกจากนี้ยังทำให้คนในสังคมได้เห็นด้วยว่า แม้จะพิการแต่ก็ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค  สามารถเป็นตัวอย่างให้กับคนพิการที่อยู่ในครอบครัว หรือในครอบครัวที่มีคนพิการแต่เก็บเขาไว้ได้นำศักยภาพที่เขามีอยู่ออกมาให้สังคมได้รับรู้ และยืนอยู่ได้ในสังคมโดยไม่เป็นภาระของใคร รวมถึงเป็นแบบอย่างให้คนทั่วไปที่กำลังท้อแท้อยู่ด้วย หลังจากนี้ก็จะได้มีการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาที่มีอยู่แบะเสริมสร้างนักกีฬาใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการไปแข่งขันพาราลิมปิคเกมส์ครั้งต่อไปที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

สำหรับเหรียญรางวัลนักกีฬาไทย ใน "พาราลิมปิก โตเกียว 2020 “  คว้ามาได้ 5 เหรียญทอง จาก พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่ง คลาสที 53 คนเดียว 3 เหรียญ (100, 400, 800 เมตร), อธิวัฒน์ แพงเหนือ วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร คลาสที 54, บอคเซีย ทีมบีซี 1-2 (วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, สุบิน ทิพย์มะนี, วัชรพล วงษา, วรวุฒิ แสงอำภา) / 5 เหรียญเงิน จาก อธิวัฒน์ แพงเหนือ วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตร ที54, ประวัติ วะโฮรัมย์ วีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 เมตร ที54, พรโชค ลาภเย็น บอคเซีย บุคคล บีซี 4, วัชรพล วงษา บอคเซีย บุคคล บีซี 2, สุจิรัตน์ ปุกคำ แบดมินตัน หญิงเดี่ยว คลาส WH1 และ 8 เหรียญทองแดง จาก สายสุนีย์ จ๊ะนะ วีลแชร์ฟันดาบ เอเป้ คลาสบี, รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เทเบิลเทนนิส บุคคลชาย คลาส 6, ภูธเรศ คงรักษ์ วีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 และ 5,000 เมตร คลาสที54, เทเบิลเทนนิส ทีมชาย คลาส 3 (อนุรักษ์ ลาววงษ์, ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, ถิรายุ เชื้อวงษ์), ขวัญสุดา พวงกิจจา เทควันโด คลาส K44 น้ำหนักไม่เกิน 49 กก., สายชล คนเจน วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตร คลาสที54 และ แบดมินตัน หญิงคู่ คลาส WH 1-2 (สุจิรัตน์ ปุกคำ, อำนวย เวชวิฐาน) จบการแข่งขันอันดับที่ 25 และเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปเอเชีย รองจากจีน (เจ้าทอง), ญี่ปุ่น, อิหร่าน, อุซเบกิสถาน และอินเดีย