ทหารเร่งซ่อมบ้านที่ถูกระเบิดเสียหายจากโดังดอกไม้ไฟระเบิด

นราธิวาส-ทหารกองทัพภาค4 เร่งซ่อมแซมบ้านที่เสียหายจากเหตุโกดังดอกไม้ไฟระเบิด สำรวจเบื้องต้นบ้านรอบนอก682 หลัง มูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท บางครอบครัวยังนอนปักหลักคาซาก ส่วนที่เดือดร้อนหนักต้องตั้งกล่องรับบริจาดหน้าบ้านต่างหาก

     เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 66 เวลา 09.00 น. พล.ต.เฉลิมพร เขียวขำ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารของหน่วยในสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จัดกำลังพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ เดินทางมาที่ตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นจุดที่โกดังดอกไม้ไฟระเบิด ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แถมบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย 682 ครัวเรือนนั้น

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้กระจายกำลังกันซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน ที่ผ่านการตรวจสอบและประเมินความเสียหายแล้ว โดยเน้นการซ่อมแซมหลังคาที่ได้รับจากภาครัฐและเอกชนบริจาด เพื่อให้เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัวสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ชั่วคราว ในการป้องกันทรัพย์ได้รับความเสียหายจากสภาวะฝนที่ตกลงมา รวมทั้งการเก็บกวาดซากปรักหักพังของบ้านแต่ละหลัง ขึ้นรถบรรทุกของ สนง.หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส นำไปทิ้ง เพื่อตรวจสอบด้านการฟื้นฟูของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

     นอกจากนี้แล้วในช่วงเช้ายังมีบรรยากาศเจ้าของบ้านแต่ละหลัง ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโกดังดอกไม้ไฟระเบิด ได้นำสมาชิกในครอบครัวเข้าไปเก็บทรัพย์ที่มีค่า รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังหลงเหลือ โดยมีซากปรักหักพังของบ้านเรือนทับถม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ทองรูปพรรณรวมทั้งของมีค่าต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้ โดยในส่วนของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มส่วนใหญ่จะเสียหายอยู่ในกองเพลิง และเสียหายจากสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้

     ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด แต่ไม่เข้าไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ สนามกีฬา อบต.มูโนะ ได้ใช้เต็นท์ผ้าใบผูกทั้ง 4 มุม แล้วนำไปผูกโยงกับเสาบ้าน เพื่อใช้ทำเป็นหลังคาชั่วคราว จากการพูดคุยทราบว่าพอใจอยู่ที่ซากปรักหักพังมากกว่าศูนย์พักพิง เนื่องจากกินได้นอนหลับไม่ต้องห่วงว่าข้าวของมีค่าจะสูญหาย เพราะหากทางราชการการช่วยเหลือเบ็ดเสร็จ ก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องไปซื้อหาข้าวของกลับมาใช้การใหม่ทั้งหมด และทราบว่าบางบ้านของมีค่าสูญหายเพราะถูกขโมย

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินบันทึกภาพบรรยากาศต่างๆอยู่นั้น ได้พบเห็นนายสมจิต อาแวเต๊ะ อายุ 48 ปีบ้านเลขที่ 25/3 ซึ่งอยู่ห่างจากจุศูนย์กลางของโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด เพียง 70 เมตร ได้มีการนำแผ่นป้ายข้อความภาษาไทย เขียนว่ารับบริจาค 1 แผ่น และมีกล่องกระดาษวางอยู่ 1 กล่อง ไว้ที่บริเวณหน้าบ้านพักที่อยู่ในสภาพปรักหักพังทั้งหลัง โดยภายในกล่องมีธนบัตรหรือเงินสดจำนวนหนึ่งวางอยู่ เมื่อสอบถามทราบว่า เป็นการตั้งเพื่อรับบริจาดให้กับส่วนตัว เนื่องจากต้องมีเงินใช้จ่ายจิปาถะเลี้ยงลูกเลี้ยงภรรยา รวม 5 ชีวิต แถมบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ในช่วงนี้ต้องอพยพลูกและภรรยาไปอาศัยอยู่ชั่วคราวที่บ้านของบิดาในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง โดยในแต่ละวันก็มีผู้บริจาคเพื่อสมทบนำไปใช้ประทังชีวิต

     ส่วนการสำรวจประเมินความเสียหายบ้านพักของประชาชนรอบนอก ของเจ้าหน้าที่กองช่างจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนกว่า 100 คน ยังไม่รวมถึงจุดที่ได้รับความเสียหายจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งได้สำรวจไปแล้ว จำนวน 682 หลัง มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 500 ล้านบาท และมีรถยนต์เสียหาย 39 คันรถ จยย. 25 คัน รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 1 คัน.