ผบช.ภ.9 เร่งส่งหมายเรียกเจ้าของโกดังดอกไม้เพลิงระเบิด-ไม่มาออกหมายจับ
หมวดหมู่ : นราธิวาส, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 31 ก.ค. 2566, 21:30 น. อ่าน : 442นราธิวาส-ผู้บัญชาการภาค 9 เผยส่งหมายเรียกเจ้าของโกดังที่เกิดเหตุระเบิดสนั่นเมืองมาพบตำรวจ ไม่มาออกหมายจับทันที ส่วนโยธาระดมช่างทั้งจังหวัดประเมินความเสียหายบ้านพักชาวบ้าน ล่าสุดยึดดอกไม้เพลิงเพิ่มอีกเกือบ1 ตัน ขณะที่น้ำใจหลั่งไหลระดมไปช่วยผู้ประสบภัย
กรณีโกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิดสนั่นเมืองในตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2566 เวลา 15.40 น. จากเหตุคนงานเชื่อมต่อเติมอาคารโกดัง มีสะเก็ดไฟตกลงบนกล่องใส่ดอกไม้เพลิงจำนวนกว่า 2 คันรถบรรทุก ไฟลุกไหม้ระเบิดรัศมีกว้างกว่า 300 เมตร บ้านเรือนร้านค้าพังราบกว่า100 หลัง มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 115 รายต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เวลา 10.00 น.พล.ท.ศานติ ศกนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปติดตามเรื่องดังกล่าวที่กองอำนวยการศูนย์พักพิงขั่วคราว สนามกีฬา อบต.มูโนะ และสั่งการให้สอบสวนว่าการขออนุญาตทุกขั้นตอนถูกต้องหรือไม่ และในเวลา 16.20 น.วันเดียวกัน ตำรวจ จ.นราธิวาส ได้สนธิกำลังกับกองพันทหารราบที่ 151 ค่ายกัลป์ยาณานิวัฒนา ตรวจพบดอกไม้เพลิง พลุ และประทัดไฟเงินอีก 2 จุดใหญ่ อีก 1 ตัน ที่เก็บในอาคารพาณิชย์ห่างที่เกิดเหตุ150 เมตร เป็นของเจ้าของเดียวกัน จึงยึดมาเก็บไว้
ความคืบหน้าเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า วันนี้ (31 ก.ค. 66) เวลา 09.30น. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวลผบช.ภ.9 ได้เดินทางมายัง สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในการประชุมร่วมเหตุโกดังเก็บดอกไม้เพลิงที่เกิดระเบิด โดยมี รอง ผบช.ภ.9 รอง ผบก.ภ.จว.
นราธิวาส ผกก.สภ.มูโนะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุด อี.โอ.ดี. ร่วมประชุม ในที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำในทางคดี การให้การรักษาความปลอดภัยสถานที่เกิดเหตุ เกรงทรัพย์สินของชาวบ้านที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังถูกขโมย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องรอให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมาทำการประเมินความเสียหาย
นอกจากนี้พนักงานสอบสวนจาก สภ.ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว. นราธิวาส ได้เดินทางมายัง สภ.มูโนะ เพื่อตั้งโต๊ะทำการสอบสวนประชาชนผู้ประสบภัย ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิด ซึ่งมีการสอบสวนปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา 16 ราย และในวันนี้จะมีเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 50 ราย เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานทางคดี และใช้เป็นหลักฐานส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวประเมินให้การช่วยเหลือในอีกทางหนึ่ง
ต่อมา พล.ต.ท.นันทเดช ผบช.ภ.9 ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณโกดังดอกไม้เพลิงระเบิด มีพล.ต.ต.อนุรุธ ผบก.ภ.จว. นราธิวาส นำชี้จุดเกิดเหตุและอธิบายถึงความรุนแรงของระเบิดที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะ 2 หลุมใหญ่ คิดรวมเป็นระเบิดหนักประมาณ 3,300 ก.ก. หรือ 3.3 ตัน ทำให้ตลาดมูโนะได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่จุดดังกล่าวให้ช่างขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทำการประเมินเพื่อให้การช่วยเหลือ
จากนั้นพล.ต.ท.นันทเดช ผบช.ภ.9 ได้เดินทางไปตรวจสอบกรณี พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจ.นราธิวาส ร.อ.สรชาติ ศาลารักษ์ ผบ.ร้อย ทพ.1004 และ ร.ท.อัครพัฒน์ อยู่รอบรียง รอง ผบ.ร้อยป้องกันชายแดนที่3 ได้ร่วมกันตรวจยึดดอกไม้เพลิง ซึ่งเป็นชนิดลูกบอล จำนวน 180 กระสอบ และดอกไม้เพลิงชนิดต่างๆอีก 22 ลัง ซึ่งมีน้ำหนักรวมกันประมาณ
900 ก.ก. ที่ถูกเก็บไว้บริเวณชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์ 3 ห้อง ไม่มีเลขที่ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอาคารพาณิชย์ 4 ห้อง ของนายสมปอง เจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงที่เกิดระเบิด โดย 2 วัน เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดดอกไม้เพลิงของนายสมปอง รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,900 ก.ก. และเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายไปเก็บไว้เพื่อตรวจสอบยังค่ายกัลยานิวัฒนา ต่อไป
ส่วนที่ทำการ อบต.มูโนะ นายว่าศักดิ์ เจิมจิระ โยธาธิการและผังเมือง จ.นราธิวาส ได้มอบหมายให้นายนิพัฒน์ทองคุป เป็นผู้ควบคุมนายช่างจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัด จำนวนกว่า 100 คน เข้าประเมินบ้านพักของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอบนอกซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุโกดังระเบิดในรัศมีกว่า 300 เมตรที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สำรวจไปแล้ว จำนวน 329 หลังคาเรือน โดยแยกความเสียหายร้อยละ 80 จำนวน 2 หลัง และนอกนั้นได้รับความเสียหายร้อยละ 20 ว่าการประเมินถูกต้องหรือไม่ และควรที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเช่นไร เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้นายช่างที่ถูกระดมไปทำการประเมินบ้านพักที่เสียหาย ได้แยกเขาไปสำรวจบ้านพักที่อยู่ในรัศมีการทำลายล้างของดอกไม้เพลิงที่เก็บไว้ในโกดัง หรือใกล้จุดศูนย์กลางของโกดังระเบิด ซึ่งมีมากว่า 50 หลังคาเรือน โดยส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าแต่ละหลังมีทรัพย์สินโครงสร้างบ้านแต่ละหลังมีมูลค่าเท่าใด ซึ่งมองด้วยตาเปล่าในเบื้องต้นคาดว่าได้รับความเสียหายในภาพรวมหลังละประมาณ 5 แสน ถึงหลังละเกือบ 1 ล้านบาท
ทางด้านบรรยากาศความประทับใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้มีความสูญเสียเกินบรรยายในครั้งนี้ ผู้ได้รับความเสียหายกล่าวว่า เราได้เห็นภาพการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกที่ทราบข่าว ได้นำข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงอาหารการกิน มาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยได้รับประทาน โดยสังเกตได้จากสีหน้าและแววตาที่ออกมาได้เห็นชัด ทั้งผู้รับและผู้ให้ นอกจากนี้ยังมีภาพอันน่ายกย่องที่มีกลุ่มนักเรียนในสังกัดกรมอาชีวะศึกษา รวมไปถึงนักศึกษาวิชาทหารได้ร่วมกันแยกแยกในการเก็บซากปรักหักพังของบ้านเรือนประชาชน ที่มีการประเมินราคาความเสียหายเบื้องต้น ในการเตรียมพร้อมสถานที่ที่อาจจะมีการก่อสร้างแทนหลังเก่า
นายมหิศร ปัตนราษฎร์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี เปิดเผยว่า ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากกรมอาชีวศึกษาให้ลงพื้นที่เกิดเหตุโกดังระเบิดในพื้นที่ ต.มูโนะ ตนรู้สึกเป็นห่วงพี่น้องที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะในเรื่องความเป็นอยู่ ซึ่งทางกรมฯจะระดมนักเรียนนักศึกษาจากกรมฯลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องการซ่อมแซมบ้าน การเดินสายไฟ การซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือประกอบอาชีพ ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้โดยติดตามหน่วยงานราชการในพื้นที่
ขณะที่ น.ส.นาเดีย อัลมุสตอฟา ชาว จ.ยะลา เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจาก จ.ยะลา ตั้งใจที่จะมาให้กำลังประชาชนชาวมูโนะที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ เมื่อมาดูสภาพความเสียหายนรู้สึกหดหู่มาก สามีตนเมื่อทราบข่าวก็อาสาลงมาช่วยเหลือด้วย ตนอยากให้คนไทยที่ทราบข่าวช่วยร่วมมือกันช่วยเหลือชาวมูโนะ อย่างที่ตนเห็นและสัมผัสในวันนี้มีประชาชนต่างพื้นที่มาช่วยกันให้กำลังใจกัน ตนก็นำสิ่งของเล็กๆน้อยๆมาช่วยเหลือและให้กำลังใจ อะไรที่เราช่วยได้ก็ช่วยกัน ตนอยากให้กำลังชาวมูโนะในต่อสู้ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 กล่าวว่า สำหรับเจ้าของโกดังเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวแล้ว โดยเจ้าตัวนัดมาพรุ่งนี้ ถ้าไม่มาเราจะออกหมายจับ ส่วนกรณีดอกไม้เพลิงที่อยู่ในโกดังมีการคำนวณตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและกองพิสูจน์หลักฐาน ความรุนแรงของการระเบิดตีคร่าวๆ ความรุนแรงของระเบิดน้ำหนักมากกว่า1,000 กิโลกรัมขึ้นไป ดอกไม้เพลิงในโกดังต้องมีการตรวจสอบถึงที่มาที่ไป กฎหมายระหว่างเส้นทางมีกฎหมายควบคุมตั้งแต่ขนส่ง เก็บรักษา เราตรวจสอบได้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบต้องใจเย็นๆ การเอามาเก็บต้องมีลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ มันต้องมีเอกสารการนำเข้าการส่งออก การสร้างโกดังต้องได้รับการอนุญาต การก่อสร้างที่เก็บประทัดดอกไม้ไฟต้องมีลักษณะพิเศษกับการก่อสร้างทั่วไปมีกฏมีระเบียนชัดเจน
“ได้สั่งตรวจสอบแล้วเช่นกัน เจ้าของโกดังเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการครอบครอง 5 หรือ 6 ปีที่แล้ว คือ ปี 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งฟ้องไปแล้ว สำหรับการกัดตุนดอกไม้เพลิงจำนวนมากตรงนี้ มีเจ้าหน้าที่ตรงจสอบ 5 กระทรวงเดี๋ยวก็มีการไล่ตรวจสอบทั้ง 5 กระทรวง ระหว่างนี้เราเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ในกรณีที่มีการเชื่อมโลหะภายในโกดัง ถือว่าเป็นการประมาทหรือไม่เราต้องมีการสอบสวนไม่อยากพูดไปมาแต่มีแนวโน้ม เพราะในโกดังมีวัตถุไวไฟ” พล.ต.ท.นันทเดช กล่าว.