“ภูเก็ต”ยิ้มรับได้จัดอีกครั้ง”มาราธอน ซูเปอร์ สปอร์ตฯ” รับนักวิ่งทั่วโลก

ภูเก็ต-จังหวัดเตรียมพร้อมจัด“วิ่งมาราธอน ซูเปอร์สปอร์ต ลากูน่า ภูเก็ต”รับนักวิ่งจากไทยและทั่วโลก วันที่ 11-12 มิ.ย.นี้ เปิดตัว Hybrid Race ครั้งแรกของประเทศไทย 

ข่าวดีสำหรับชาวภูเก็ตที่จะได้รับนักวิ่งจากทั่วโลก แข่งขันรายการใหญ่นี้ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2565 ถึงการจัดแข่งขันวิ่งระดับมาราธอนนานาชาติใน จ.ภูเก็ตว่า ภูเก็ตได้เปิดเกาะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแล้ว และพร้อมกลับมาจัดงานชื่อดังระดับนานาชาติอย่าง วิ่ง”มาราธอน ซูเปอร์สปอร์ต ลากูน่า ภูเก็ต” อีกครั้ง ซึ่งเป็นสปอร์ตอีเว้นต์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยสู่จังหวัดภูเก็ตทุกๆ ปี พร้อมยังช่วยสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวและธุรกิจท้องถิ่นอีกด้วย ผู้จัดงานหลายภาคส่วนและชุมชนต่างๆพร้อมแล้วที่จะให้ต้อนรับผู้เข้าร่วมแข่งขัน ตลอดจนผู้ติดตามหลายพันคน เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ดีๆ จากการมาเยือนภูเก็ตในครั้งนี้ 

สำหรับกิจกรรมวิ่งงานนี้ได้ต้อนรับนักวิ่งกว่า 200,000 คนจากกว่า 70 ประเทศทั่วโลกสู่ภูเก็ตมาตลอด 15 ปี และเป็นหนึ่งในสปอร์ตอีเว้นท์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ตลอดจนเป็นงานวิ่งมาราธอนชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการการันตีมาตรฐานสนามวิ่งมาราธอนระดับสากลจากสมาคมวิ่งมาราธอนนานาชาติและการแข่งขันทางเรียบ (IAAF AIMS) และเป็นควอลิฟายเรซเพื่อเข้าแข่งขันวิ่งระดับโลกอย่าง บอสตัน มาราธอน ได้อีกด้วย 

นายชาลี แซ่จึง ผู้ช่วยผู้อำนวยการการแข่งขัน บริษัท ภูเก็ตมาราธอน จำกัด เปิดเผยว่า วิ่งมาราธอน ซูเปอร์สปอร์ต ลากูน่า ภูเก็ต เป็นงานวิ่งยอดนิยมที่ดึงดูดนักวิ่งจากทั่วประเทศไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงาน นอกจากนี้ยังเป็นงานที่มีความสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต ยิ่งกว่านั้นในปีนี้จะเป็นงานที่แสดงให้ทุกคนได้ทราบว่า ภูเก็ตพร้อมกลับมาต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว

“การแข่งขันมีทั้งหมด 6 ประเภทตั้งแต่วิ่ง 2 กม. จนถึงระยะมาราธอน จึงเป็นงานวิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับหลายๆ ครอบครัวที่ต้องการความสนุกสนาน เพื่อสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกันก็จะได้เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบต่างๆ ของ ลากูน่า ภูเก็ต ด้วย” โดยเส้นทางการวิ่งของงานมีทิวทัศน์ที่สวยงามและน่าสนใจ อาทิ หมู่บ้านท้องถิ่น สวนยางพารา ไร่สับปะรด ชายหาดอันสวยงามของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยการแข่งขันจะจัดขึ้น 2 สองวัน โดยในช่วงเย็น (ซันเซ็ท)วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2565 ประกอบด้วย วิ่งยุวชน (2 กม.), วิ่ง 5 กม., วิ่ง 10.5 กม., ส่วนระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.097 กม.) และมาราธอน (42.195 กม.) และมาราธอนประเภททีม จะจัดแข่งขันในเช้า (ซันไร้ส์) ของวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2565 ซึ่งจุดปล่อยตัวและเส้นชัยจะอยู่บริเวณลานกิจกรรมลากูน่า โกรฟ, ลากูน่า ภูเก็ต” นายชาลีกล่าว

ขณะที่นางเออร์ลินดา เพชรพิสิฐ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซีอาร์ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหาร ร้านซูปเปอร์สปอร์ต กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากที่กลับมาเป็นผู้สนับสนุนหลักในปีนี้อีกครั้งในฐานะการเป็นร้านค้าปลีกเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์กีฬาอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่มีช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ งานนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ ซูเปอร์สปอร์ต สามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่มาร่วมทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพและได้สวมใส่เสื้อผ้ากีฬาในสไตล์ Athleisure และในขณะเดียวกันเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยการคำนึงถึงความยั่งยืนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงาน วิ่งมาราธอน ซูเปอร์สปอร์ต ลากูน่า ภูเก็ต ทางผู้จัดงานฯ ได้มองหาวิธีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการจัดงาน หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยในปีนี้ได้มีการลดจำนวนการใช้พลาสติกจนถึงงดการใช้พลาสติกในบางส่วนที่สามารถทำได้ อาทิ การงดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งบนสนามวิ่งและในของที่ระลึกที่แจกนักวิ่ง ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มสถานีคัดแยกขยะ เพื่อให้มั่นใจว่าขยะดังกล่าวสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อีกด้วย

ด้านนายแอนโทนี โล รองประธานกรรมการ ฝ่ายการบริการส่วนกลาง - ลากูน่า ภูเก็ตกล่าวว่า ลากูน่า ภูเก็ต รอคอยที่จะได้ต้อนรับนักวิ่งจากทั้งใกล้และไกลให้กลับมาเยือนภูเก็ตในงานวิ่งที่เรียกได้ว่าจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ในฐานะที่เป็นงานกีฬาชั้นนำของภูมิภาคและยังเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของภูเก็ตจากจำนวนผู้เข้าร่วมงาน บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอยากให้ชุมชนต่างๆ บนเกาะภูเก็ตจะได้รับประโยชน์จากงานนี้เสมอ และยังสนับสนุนให้นักวิ่งและผู้เข้าร่วมงานทุกคนสร้างความแตกต่างด้วยการช่วยสร้างความตระหนักและสมทบทุนให้กับกองทุนเพื่อเด็กซีเอฟเอฟ หรือ Children First Fund (CFF) ของลากูน่า ภูเก็ต เพื่อสนับสนุนเด็กด้อยโอกาสกว่า 400 ชีวิต ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 7 แห่งในจังหวัดภูเก็ตไปพร้อมกัน.