ม.วลัยลักษณ์ จับมือ รพ.สิชล เซ็น MOU ความร่วมมือทางการแพทย์
หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป, การศึกษา,
โฟสเมื่อ : 19 ก.พ. 2565, 09:00 น. อ่าน : 886นครศรีธรรมราช-มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ลงนามความร่วมมือ MOU กับ โรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีฯ เพื่อประสานความร่วมมือด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร พร้อมดูแลนักศึกษาแพทย์แลกเปลี่ยนชาวต่างชาติ
ความร่วมมือครั้งนี้ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รักษาการแทนอธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ (มวล.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับนายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล (รพ.สิชล) โดยมี นายแพทย์เอกรัฐจันทร์วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการ รพ.สิชล รศ.ดร. จรัญ บุญกาญจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและรักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มวล. พร้อมด้วย คณะผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์ทั้งสองสถาบันเข้าร่วมในพิธี ณอาคารสหกิจศึกษา มวล. เมื่อวันก่อน
ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน มวล.มีโรงพยาบาลร่วมฝึกในชั้นคลินิกของนักศึกษาแพทย์ 2 แห่งคือ รพ.ตรัง จ.ตรัง และ รพ.วชิระภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยสำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ มวล. จัดการเรียนการสอน 3 สาขาวิชา ประกอบด้วย สาขาแพทยศาสตร์ สาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ และสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นการผลิตแพทย์ตามโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทโดยรับนักเรียนในพื้นที่ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดปีละ 48 คน ตลอดระยะเวลา 13 ปี สำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ได้ผลิตบัณทิตแพทย์ทั้งหมด 7 รุ่น ปัจจุบันมหาวิทยาลัยกำลังเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนชั้นคลินิกที่รพ.ศูนย์การแพทย์ มวล. ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับนักศึกษารุ่นแรกได้ในปี พ.ศ. 2569
สำหรับการรับสมัครนักศึกษานั้น มีแผนว่าจะสามารถรับนักศึกษารุ่นแรกได้ประมาณ 100 คน ซึ่งเมื่อรวมกับนักศึกษาที่ศึกษาชั้นคลินิกที่ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาทั้ง 2 แห่ง ในปีการศึกษา 2569 หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตจะสามารถรับนักศึกษาได้ถึง 148 คน ที่ผ่านมา มวล.ได้รับการสนับสนุนจาก รพ.สิชลในการรับนักศึกษาแพทย์ชาวต่างชาติที่มี MOU กับมวล.เพื่อเข้าฝึกชั้นคลินิก เช่น นักศึกษาจาก Ohio State University ประเทศสหรัฐอเมริกาUniversity of Angers, University of Western Brittany, ประเทศฝรั่งเศส และ University of Vienna, ประเทศออสเตรีย และเมื่อฝึกชั้นคลินิกแล้วได้กลับไปบอกเล่าเรื่องราวดีๆ และความประทับใจที่มีต่อ รพ.สิชลและบอกต่อให้รุ่นน้องสมัครเข้ามาฝึกประสบการณ์อีกเป็นจำนวนมาก การลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ จึงเป็นการแสดงเจตจำนงค์ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและ รพ.สิชล ในความร่วมทางด้านวิชาการและการสนับสนุนการจัดการศึกษาทางแพทยศาสตร์ชั้นคลินิกและด้านวิชาการอื่นๆต่อไป
ด้านนายแพทย์ อารักษ์ วงศ์วรชาติ กล่าวว่า ในส่วนของรพ.สิชล นั้น ได้เริ่มต้นจากการเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กระดับปฐมภูมิ และต่อมาได้พัฒนายกระดับมาเป็นทุติยภูมิ จนปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิโดยใช้เวลาในการพัฒนามาอย่างยาวนานถึง 30 ปี เป็นการพัฒนาที่เริ่มจากการเปลี่ยนทัศนคติในยุคโลกาภิวัฒก์ การมีนักศึกษาแพทย์จากทั่วโลกกว่า 20 ประเทศมาแลกเปลี่ยนและฝึกประสบการณ์ที่รพ.สิชลนั้นเริ่มต้นมาจากการที่ทางโรงพยาบาลได้ส่งนายแพทย์ไปร่วมประชุมสัมมนาในเวทีโลก เพื่อสร้างเครือข่าย ประชาสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางด้านระบบสุขภาพให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งกว่าจะเป็นที่ยอมรับใช้เวลาหลายปีและในขณะนั้นทรัพยากรโรงพยบาลของรัฐมีจำกัด
“สิ่งที่โรงพยาบาลสิชล ได้กำหนดให้นักศึกษาแพทย์นานาชาติได้เรียนรู้ มี 3 ด้าน คือ 1) การเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม ภาษาและสิ่งแวดล้อม 2) แนวคิดการจัดการศึกษาทางการแพทย์ และ 3) การเรียนรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่ประเทศอื่นๆ ไม่เคยพบเจอ ส่วนการสนับสนุนนักศึกษานั้น จะมีการจัดสรรที่พักให้ในราคาประหยัด และการดูแลช่วยเหลือให้ความรู้ทางการแพทย์และการประเมินผล”นายแพทย์อารักษ์กล่าว
ทั้งนี้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง มวล.และ รพ.สิชล มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือในการผลิตแพทย์ การบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามนโยบายของรัฐด้านการเสริมสร้างสุขภาวะของประชาชนอย่างครบวงจรและมีคุณภาพมาตรฐาน โดยจะร่วมกันจัดการเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์ การรับนักศึกษาแลกเปลี่ยนจาก มวล.การจัดอาจารย์พี่เลี้ยงและบุคลากรช่วยสอนและอาจมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางการแพทย์ในสาขาที่มีความขาดแคลนหรือมีความเชี่ยวชาญ และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาร่วมกันระหว่างสองหน่วยงาน โดยกำหนดกรอบความร่วมมือเป็นระยะเวลา 5 ปี.