ชาวนครฯ ร่ำไห้ส่งกำลังใจ “หมออารักษ์” ถูกเด้งจาก รพ.สิชลไปเกษียณที่ประจวบฯ

หมวดหมู่ : นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,

อ่าน : 549
หมออารักษ์ โรงพยาบาลสิชล นักรบเสื้อขาว ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์
ชาวนครฯ ร่ำไห้ส่งกำลังใจ “หมออารักษ์” ถูกเด้งจาก รพ.สิชลไปเกษียณที่ประจวบฯ

นครศรีธรรมราช-ชาว อ.สิชล ร้องร่ำไห้ แห่ให้กำลังใจ”หมออารักษ์“ นักรบเสื้อขาวถูกเด้งไกล รพ.ประจวบคีรีขันธ์ - วอนกระทรวงสาธารผณสุขทบทวนคำสั่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 10 ต.ค.65 ที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์โรงพยาบาลสิชล อ.สิชลจ.นครศรีธรรมราช มีกลุ่มพลังมวลชนชาวอำเภอสิชล ชาวอำเภอขนอม รวมทั้ง กลุ่ม อสม.กลุ่มผู้สูงอายุ แพทย์พยาบาล บุคลากรการแพทย์1,500 คน แห่แสดงพลังให้กำลังใจ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช หลังมีคำสั่งย้ายให้ไปเป็นปฏิบัติหน้าที่ ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.เป็นต้นไป 


กลุ่มพลังมวลชลมีการนำป้ายข้อความจำนวนมาก แสดงพลังให้กำลังใจ หมออารักษ์ เช่น” พวกเราอาสาสมัครสาธารณสุข ต.สิชล ยังต้องการหอมอารักษ์ ร่วมให้กำลังใจ” “ ชาวสิชล ขอให้กำลังใจ””หมออารักษ์ หมอนักพัฒนาขอโอกาสอยู่สิชลต่อเพื่อสานงานต่อ ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา” “หมออารักษ์ เหลืออายุราชการเพียง1ปี ขอให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคำสั่งด้วย 


ต่อมา นพ.อารักษ์ ลงมาพบปะกับกลุ่มพลังมวลชน ท่ามกลางเสียงปรบมือกับเกรียวลั่นห้องประชุม บางช่วงบางตอนกลุ่มผู้สูงอายุถึงกับโผเข้ากอดร้องร่ำไห้ นพ.อารักษ์ ด้วยความเสียใจและเสียดายที่ถูกย้ายไปไกล บางรายถึงกับเข้าไหว้ขอร้อง นพ.อารักษ์ อย่าย้ายไปไหนเลย ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.รพ.สิชลอีก 1 ปี จนเกษียณราชการ ทางนพ.อารักษ์ กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจครั้งนี้ แม้ว่าตนมีความต้องการทำหน้าที่ ผอ.รพ.สิชล ต่อไป ก็ตาม  ขณะที่กลุ่มพลังมวลชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ อยากเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้นพ.อารักษ์ ทำหน้าที่พัฒนาที่ รพ.สิชล อีก 1 ปี จนกว่าจะเกษียณราชการ  


ขณะที่นายสุธรรม วิชชุไตรภพ อดีตประธานมูลนิธิ รพ.สิชล และ ประธาน อสม.อำเภอสิชล กล่าวแสดงความรู้สึกและประวัติผลงานของ นพ.อารักษ์ ที่มีผลงานพัฒนา รพ.สิชลมาโดยตลอดกว่า 30ปีที่ผ่านมา จน รพ.สิชลพัฒนาก้าวหน้าไปมาก


จากนั้น นพ.อารักษ์  ผอ.รพ.สิชล กล่าวต่อหน้าพลังมวลชนที่มาให้กำลังใจว่า ก่อนหน้าที่คำสั่งย้ายจะออกมา ตนได้แสดงความจำนงค์กับผู้บังคับบัญชาว่ามีความประสงค์ขออยู่ที่เดิม เมื่อมีคำสั่งย้ายตนก็พร้อมน้อมรับคำสั่งขอผู้บังคับบัญชาที่ย้ายตนในครั้งนี้ โดยจะออกเดินทางไปรับตำแหน่งตอนกลางดึกคืนวันที่ 16 ต.ค.และถึงจ.ประจวบคีรีขันธ์ เช้าวันที่ 17ต.ค.เข้ารายงานตัวต่อ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ และพร้อมปฏิบัติงานในหน้าที่ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ทันที


“กราบสวัสดี พ่อแม่พี่น้อง ที่เคารพทุกท่าน ผมต้องขอกราบขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวสิชล ชาวขนอม และบ้านใกล้เรือนเคียง ทุกท่าน ที่มาให้กำลังใจผมในวันนี้ขอบคุณจากใจครับ ผมอยู่ที่นี่มา 30 ปี โรงพยาบาลสิชล เป็นเหมือนบ้าน ที่ทำงาน กิน นอน ทั้งในเวลา นอกเวลาราชการ พ่อแม่พี่น้อง  และเจ้าหน้าที่ทุกคน คือชีวิตของผมครับแต่ชีวิตข้าราชการเราไม่อาจกำหนด มันก็เป็นเช่นนี้ครับผู้บังคับบัญชาสั่ง ให้อยู่ตรงไหน ก็ต้องไปตามนั้น” นพ.อารักษ์กล่าว

 

นพ.อารักษ์กล่าวว่า ตนเองก็น้อมรับ ตอนนี้ตนเก็บของที่สะสมมา 30 ปี เรียบร้อยแล้ว และเตรียมส่งมอบงานให้กับผู้อำนวยการท่านใหม่ ฝากพ่อแม่พี่น้อง ให้การสนับสนุนผู้อำนวยการท่านใหม่ด้วย ตนก็มีอายุราชการเหลืออีกแค่ปีเดียว ได้แสดงความจำนงขออยู่ที่เดิม และมีความตั้งใจจะเกษียณราชการที่สิชล ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีคำสั่งย้ายก่อนหน้านี้ หากยังทำงานที่นี่ ตนก็ได้วางแผนสิ่งที่จะทำให้สำเร็จภายใน 1 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับพ่อแม่ พี่น้องชาวสิชล และเจ้าหน้าที่ทุกคน มีคุณภาพชีวิตที่ดี พัฒนาโรงพยาบาลให้ทันสมัย ตอบสนองปัญหาของชาวสิชล ขนอม และใกล้เคียง


เรื่องสำคัญที่จะเร่งทำคือ 1.อาคารจอดรถ 10 ชั้น งบเงินบำรุง สร้างเพื่อ ลดความแออัดการจอดรถริมถนน2.อาคารเทคนิคการแพทย์ งบเงินบำรุง สร้างเพื่อ เป็นอาคารรักษาพยาบาล          โรคเฉพาะทางระดับสูง 3.สร้างศูนย์หัวใจเอกซเรย์หลอดเลือด งบเงินบำรุง  เพื่อลดช่องว่างการเข้ารับบริการ โรคที่รุนแรงที่ต้องรักษาโดยการสวนทางเส้นเลือดได้ทันท่วงที 4.โรงพยาบาลสิชล 2 งบเงินบำรุง เป็นโรงพยาบาลเพื่อผู้สูงอายุ ฟื้นฟูสุขภาพ บนเนื้อที่80ไร่ ข้างศูนย์ราชการอำเภอสิชล ที่ได้ขอใช้พื้นที่ไว้แล้ว   ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีแต่เชื่อว่าผู้บริหารท่านใหม่ จะได้สานงานต่อไป


“ผมมีความกังวลอยู่บ้าง ในส่วนของชีวิตครอบครัว  ผมมีคุณพ่ออายุ 93 ปี แล้ว  ท่านแก่ชรามากแล้ว และท่านก็ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ผ่าตัดไปหลายครั้ง สร้างกระเพาะปัสสาวะเทียม  ตอนนี้ต้องใช้ถุงปัสสาวะทางหน้าท้อง  เป็นโรคเลือดออกในสมอง ผ่าตัดมากว่า 10 ครั้ง รวมทั้งโรคเรื้อรังอื่นๆอีกหลายโรค  ต้องได้รับการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ จากลูกๆ ส่วนตัวผมที่เป็นหมอ ปกติผมต้องไปเยี่ยมท่านทุกสัปดาห์ หรือทุกครั้งที่ท่านถามหา ดังนั้นโอกาสที่จะได้ดูแลท่านก็คงจะลดน้อยไปตามระยะทาง เพราะผมต้องไปทำหน้าที่ห่างไกลจากบ้าน 400 กว่าโลและต้องเดินทางโดยรถยนต์เป็นหลักกว่า 6 ชั่วโมง คงไม่สะดวกที่จะเดินทางมาบ่อยๆ” นพ.อารักษ์ กล่าว


พร้อมกันนี้ นพ.อารักษ์ เผยอีกว่า ตอนนี้ได้วางแผนที่จะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ จะเดินทางวันอาทิตย์ ที่ 16 ต.ค.นี้ ออกจากโรงพยาบาลเวลาประมาณ 10-11 นาฬิกา หลังจากเปิดมหกรรมงานวิ่งโรงพยาบาลสิชลมาราธอนครั้งที่ 14  เพื่อรายงานตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2565 และเริ่มปฏิบัติงานทันที โดยไม่ชักช้า จะใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน ร่วมกับ ทีมแพทย์พยาบาล  สหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ทุกระดับ รวมพลังกับภาคประชาชน สร้างความเปลี่ยนแปลง ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการ สองวันที่ผ่านมา ได้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาความจำเป็นเร่งด่วนที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ ไว้บ้างแล้ว เมื่อไปถึงจะได้ทำงานทันที

 

“สุดท้ายนี้ผมต้องกราบขอบคุณ พ่อแม่ พี่น้อง ทุกท่าน ที่มาให้กำลังใจผมและเจ้าหน้าที่ในวันนี้ เราเป็นข้าราชการไม่มีสิทธิ์เลือก แต่หากผมสามารถเลือกได้ และเห็นว่าจะทำประโยชน์ให้ รพ.สิชล ชาวสิชล และขนอมได้อีกก็จะขออยู่เพื่อสางงานที่คั่งค้างให้เสร็จตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ครับ ด้วยความเคารพทุกท่านอย่างสูง ผมเชื่อมั่นและศรัทธา ในพลังของประชาชาชน คนเล็กคนน้อยเสมอมา  มีแต่ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ มีเมตตา ต่อผู้ป่วยและคนที่ยากลำบาก เสมอมา ขอผลบุญกุศลที่ กระผม และทุกท่านได้สั่งสมมา ขออวยพรให้มีแต่ความสุขกาย สบายใจ สุขภาพดี มีพลังเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานและบ้านเมืองสืบไป” นพ.อารักษ์ กล่าวย้ำตอนท้าย.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประวัติ นพ.อารักษ์คนนี้ อดีตเคยเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทมาก่อน และปัจจุบันที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบท เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็น หมอที่ออกมาเปิดเผยให้ความรู้เรื่องโรคไข้เจ็บต่างๆในโลกโซเซียลที่น่าสนใจหลายโรค ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวตลอดมาหลายปีที่ผ่านมา จนเป็นที่ชื่นชมในโลกโซเซียลตลอดมา จนกลายเป็นขวัญใจของประชาชนทั่วไป