รอง มท.4 ล่องเรือแม่น้ำและชายแดน ป้องกันกลุ่มก่อเหตุฯน้ำท่วม-ปีใหม่
หมวดหมู่ : นราธิวาส, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 17 ธ.ค. 2566, 19:00 น. อ่าน : 343นราธิวาส- รองแม่ทัพภาค4 ลงพื้นที่ชายแดนและแม่น้ำ ตรวจพื้นที่น้ำท่วม จ.นราธิวาส เน้นย้ำกำลังพลเฝ้าระวังกลุ่มก่อเหตุรุนแรง แฝงตัวข้ามแดนมาก่อเหตุช่วงน้ำท่วมและปีใหม่
เมื่อ วันที่ 17 ธ.ค.66 เวลา 15.00 น. พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 และ รอง ภาคที่ 4ผอ.กอ.รมน. สน. พร้อมคณะ ได้เดินทางด้วยเรือยนต์ของ ฉก.นราธิวาส เพื่อตระเวนตรวจความเรียบร้อยแนวชายแดน ซึ่งมีแม่น้ำโก-ลกเป็นเส้นกันพรมแดน ระหว่าง จ.นราธิวาสกับรัฐกลันตัน ซึ่งอยู่ในสภาวะน้ำท่วมขังจากผลพวงของแม่น้ำโก-ลก ล้นตลิ่งพร้อมทั้งได้เดินทางไปยังกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 4 ซึ่งตั้งอยู่บ้านศรีพงัน ม.3 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ เพื่อประชุมร่วมและมอบนโยบายแก่ พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.อ.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาสพ.อ.วรวิทย์ ปัญญาชีวะ รอง ผบ.ควบคุมสุริโยทัย และเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดแนวชายแดน ในเขตพื้นที่ แว้ง สุไหงโก-ลกและตากใบ
การประชุมด้งกล่าว พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 ได้เน้นย้ำให้กำลังพลที่ฝ่ายที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดนในพื้นที่ 3 อำเภอ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับรัฐกลันตัน ของประเทศมาเลเซีย ในการกำชับให้กำลังพลมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลากที่แม่น้ำโก-ลก ล้นตลิ่ง และในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบหนีไปอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย ฉวยโอกาสหาช่องโหว่แฝงตัวข้ามแดนมาก่อเหตุในพื้นที่อำเภอต่างๆของ จ.นราธิวาส โดยใช้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ตากใบ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการโจมตีที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และลอบวางระเบิดร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ รวมทั้งยิงถล่มจุดตรวจ เป็นบทเรียนเพื่อใช้เป็นมาตรการในการเฝ้าระวังมิให้เหตุร้ายเกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ต้องร่วมกับหน่วยหน้าที่ข้างเคียงที่เกี่ยวข้อง ในการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ หากเกิดเหตุการณ์จริงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทันท่วงที
ก่อนเดินทางกลับ พล.ต.ไพศาล รองแม่ทัพภาค 4 ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่กำลังพล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ก่อนที่จะเดินทางไปยังห้องควบคุมรั้วความมั่นคงอีเล็กทรอนิกส์ ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทันสมัย ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนนี้ที่ต้องผลักเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา และมีความทันสมัยสามารถพบเห็นพฤติกรรมของทุกบุคคลที่ผ่านเข้าออกตลอดแนวชายแดน.