สลดใจ! 2 พ่อครัวขับ จยย.จะไปทำอาหารเจ ถูกรถพุ่งชนดับ 1 เจ็บ 1 คนขับบึ่งหนี

ตรัง-สลดใจ! คนขับรถ SUV พุ่งชนท้ายรถ จยย.พ่อครัวศาลเจ้าฯ ร่างกระเด็นไปพร้อมกับหัวหน้าพ่อครัว ระหว่างกำลังเลี้ยวเข้าศาลเจ้าฯ เพื่อไปทำอาหารเจแล้วขับหลบหนีไป ก่อนที่รถเก๋งสาวใหญ่วัย 54 ปี ขับสวนมาเพื่อไปเฝ้าลูกสะใภ้ที่เพิ่งคลอดลูก พุ่งชนซ้ำลากร่างพ่อครัวไปไกลกว่า 50 เมตรดับคาที่ และยืนรอพบตำรวจ เผยไม่เห็นว่าเป็นคนคิดว่าเป็นกองขยะ ขณะที่ ตร.เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดไล่ล่าตีนผีชนหนี คาดว่าอาจเมาแล้วขับ

เหตุสลดใจรายนี้ เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 1 ต.ค.65 ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญญสุวรรณ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนรถ จยย.ซ้ำซ้อนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดปากซอยซุ้มประตูทางเข้าศาลเจ้าพ่อหมื่นราม บนถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยทีมกู้ชีพนเรนทร รพ.ตรัง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง  

เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยศาลเจ้าฯ พบรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีเขียว ทะเบียน กรก 902 ตรังล้มตะแคงขวาอยู่ริมถนนในสภาพถูกชนท้ายพังเสียหาย ใกล้กันพบปิ่นโตตกกระจายบนถนน ถัดออกไปอีกประมาณ50  เมตร บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น พบผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนซ้อนท้าย ทราบชื่อคือนายสุเทพ ฟุกล่อยหรือโกอิ้น อายุ 59 ปี พ่อครัวโรงทานศาลเจ้าพ่อหมื่นราม นอนเสียชีวิตบนถนน หน้าอกถูกกระแทกอย่างรุนแรง มีบาดแผลตามร่างกาย ทีมกู้ชีพกู้ภัยเร่งทำการปั้มหัวใจช่วยเหลือ เพื่อยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล ติดกับร่างผู้เสียชีวิตพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กธ 6249 ตรัง สภาพหัวรถพังเสียหาย คนขับยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใกล้กันยังพบนายอรุณ ศรีสุข อายุ 59 ปี หัวหน้าพ่อครัวศาลเจ้าพ่อหมื่นราม คนขับรถ จยย.ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกาย กู้ชีพเร่งทำการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่ง รพ.ตรัง 

จากการสอบถามนายอรุณ ศรีสุข อายุ 59 ปี คนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นผู้ขับรถ จยย. เล่าว่าตนเองขับรถ จยย. โดยมีนายสุเทพพ่อครัวนั่งซ้อนท้าย โดยช่วงนั้นฝนตกโปรยๆ เมื่อขับมาถึงถนนรัษฎา เปิดไฟเลี้ยว และเลี้ยวมาถึงเส้นเหลืองกลางถนน เพื่อจะเข้าซอยศาลเจ้าฯ ไปทำอาหารเจ ระหว่างที่อยู่กลางถนน ได้มีรถยนต์ลักษณะคล้ายรถ SUV คนขับสวมแว่น ขับด้วยความเร็วมาจากทางแยกพรศิริกุล มุ่งตรงมาที่ท้ายรถของตน ตนได้ยกมือเพื่อเตือนให้หยุด แต่รถเก๋งได้เข้าพุ่งชนทันที ก่อนจะขับหลบหนีไป ทำร่างให้นายสุเทพกระเด็นไปนอนอยู่สิ้นใจตายอยู่กลางถนน และได้มีรถยนต์เก๋งวีออส คันดังกล่าวพุ่งเข้ามาชนซ้ำและลากออกไปไกลกว่า 50 เมตร        

ขณะที่ นางบัว (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 54 ปี คนขับรถเก๋ง ตนขับรถมาจากบ้านในพื้นที่ ต.โคกหล่อ พร้อมกับลูกชายเป็นคนนั่งข้าง เพื่อที่จะไปเฝ้าลูกสะใภ้ที่โรงพยาบาล หลังเพิ่งคลอดได้เพียง 1 ชั่วโมง โดยขับมาตามเส้นทางฝั่งแยกวังยาว-แยกต้นสมอ  มุ่งหน้าไปทางสามแยกพรศิริกุล ระหว่างเมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุปากทางเข้าศาลเจ้าฯก่อนจะเห็นว่าบนกลางถนนในเลนรถยนต์มีสิ่งของสีดำๆ รวมทั้งหมวกกันน็อก และเสื้อฝน คิดว่าเป็นกองขยะตั้งอยู่ ก็ยังคิดในใจว่าทำไมขยะเพ่นพ่านจัง ทำให้พุ่งเข้าชนในทันที และลากมาถึงหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ก่อนจะทราบว่าเป็นคน จึงหยุดรถรอพบพนักงานสอบสวน ซึ่งตนไม่ได้ขับสวนกับรถคันอื่นในระหว่างที่กำลังขับมา 

หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว ทางตำรวจได้นัดผู้บาดเจ็บและคนขับรถเก๋งไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะตรวจภาพกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงว่ามีหรือไม่ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในคดี เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาหลังสถานบันเทิงปิดบริการ จึงสันนิษฐานว่าคนขับรถอาจดื่มสุราและอาจอยู่ในอาการมึนเมาควบคุมสติไม่อยู่ จึงขับรถเร็วพุ่งชนแล้วหนี ซึ่งได้ประสานให้ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ติดตามจับกุมคนขับรถที่ชนแล้วหนีมาดำเนินคดีต่อไป.