เตือนภัยภาคใต้ตอนล่าง ระวัง “แมงกะพรุนหัวขาด” พิษร้ายแรง

หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,

อ่าน : 444
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เล่นน้ำทะเลระวัง”แมงกะพรุนหัวขวด”
เตือนภัยภาคใต้ตอนล่าง ระวัง “แมงกะพรุนหัวขาด” พิษร้ายแรง

สงขลา-สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลาเตือนชาวภาคใต้ตอนล่าง เล่นน้ำทะเลระวัง”แมงกะพรุนหัวขวด” พิษมีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และผิวหนัง ส่วนใหญ่ผู้ที่สัมผัสพิษจะมีอาการคัน และปวดแสบปวดร้อน แนะเบื้องต้นใช้น้ำส้มสายชูล้างพิษก่อนว่งโรงพยาบาล


     เมื่อสายวันที่ 21 ก.ค.66 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่ลงเล่นน้ำทะเลระมัดระวังแมงกะพรุนหัวขวด โดยเฉพาะในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (พัดผ่านจากบกลงทะเลฝั่งตะวันออก) หรือพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน แนะไม่ควรลงเล่นน้ำ และหากพบผู้ที่สงสัยถูกพิษแมงกะพรุนห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นจากการกระจายของพิษแมงกะพรุน 


     แมงกะพรุนหัวขวด มีลักษณะส่วนบนลอยโผล่พ้นน้ำคล้ายลูกโป่งรูปร่างรี ยาว คล้ายหมวกของทหารเรือชาวโปรตุเกส มีหนวดยาวสีฟ้าหรือสีม่วง มีเข็มพิษ (nematocyst) สำหรับป้องกันตัวและจับเหยื่อ กระจายอยู่ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหนวด (tentacle) สำหรับพิษของแมงกะพรุนหัวขวด มีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และผิวหนัง ส่วนใหญ่ผู้ที่สัมผัสพิษจะมีอาการคัน และปวดแสบปวดร้อนในเบื้องต้น การแสดงอาการของพิษในผู้ป่วยแต่ละบุคคลความรุนแรงจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย ความต้านทาน และปริมาณพิษที่ได้รับ


     นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์การบาดเจ็บจากแมงกะพรุน ตั้งแต่ 1 มกราคม -  กรกฏาคม 2566 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการสัมผัสแมงกะพรุน จำนวน 2 ราย อายุ 7 ปี และ 19 ปี เมื่อเดือนมีนาคม 2566 ตำแหน่งที่สัมผัสพิษแมงกะพรุนส่วนใหญ่ คือบริเวณมือเนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บลงไปเล่นน้ำทะเลบริเวณชายหาดสมิหลา

และชายหาดชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา


     “สคร.12 สงขลา เน้นย้ำผู้ปกครองให้คำแนะนำบุตรหลาน ไม่ควรลงเล่นน้ำหากพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน หากลงเล่นน้ำทะเล ขอให้สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแนบตัว” นายแพทย์เฉลิมพลกล่าว


P****ส่วนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากได้รับบาดเจ็บจากพิษแมงกะพรุน แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนอย่างน้อย 30 วินาที และให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้ เมื่อพบผู้บาดเจ็บจากการถูกพิษแมงกะพรุน ห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำเปล่า เหล้า โซดา หรืออื่นๆ ไปเทราดเป็นอันขาด เนื่องจากจะกระตุ้นพิษให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ห้ามถูหรือขยี้เพราะจะทำให้พิษยิ่งแพร่กระจายมากขึ้น ที่สำคัญเลี่ยงการใช้เทคนิคพันรัดแน่นด้วยผ้ายืด และอย่าเก็บแมงกะพรุนที่ตายแล้วด้วยมือเปล่าหรือนำมาเล่น เพราะต่อมพิษยังสามารถปล่อยพิษได้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422.