สคร.12 สงขลา เตือนประชาชนลงเล่นน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทย ระวังแมงกะพรุนหัวขวด
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 26 ก.พ. 2567, 16:05 น. อ่าน : 518 สงขลา - สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา)
เตือนประชาชนก่อนลงเล่นน้ำทะเลระมัดระวังแมงกะพรุนหัวขวด
โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม หรือพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน
แนะไม่ควรลงเล่นน้ำ และหากพบผู้ที่สงสัยถูกพิษแมงกะพรุน ห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุน
เพราะจะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นจากการกระจายของพิษแมงกะพรุน
ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม
ของทุกปี เป็นช่วงการระบาดของแมงกะพรุนหัวขวด (Physalia sp.) บริเวณชายทะเลฝั่งอ่าวไทย จัดเป็นแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษร้ายแรง
โดยมีลักษณะส่วนบนลอยโผล่พ้นน้ำคล้ายลูกโป่งรูปร่างรียาว
คล้ายหมวกของทหารเรือชาวโปรตุเกส มีหนวดยาวสีฟ้าหรือสีม่วง มีเข็มพิษ (nematocyst)
สำหรับป้องกันตัวและจับเหยื่อ กระจายอยู่ทุกส่วนของร่างกาย
โดยเฉพาะบริเวณหนวด (tentacle) สำหรับพิษของแมงกะพรุนหัวขวด
มีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และผิวหนัง ส่วนใหญ่ผู้ที่สัมผัสพิษจะมีอาการคัน
และปวดแสบปวดร้อนในเบื้องต้น
การแสดงอาการของพิษในผู้ป่วยแต่ละบุคคลความรุนแรงจะต่างกัน
ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย ความต้านทาน และปริมาณพิษที่ได้รับ
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึง
สถานการณ์การบาดเจ็บจากแมงกะพรุน ตั้งแต่ 1 มกราคม - 18 กรกฏาคม 2566
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการสัมผัสแมงกะพรุน จำนวน 2 ราย เมื่อเดือนมีนาคม 2566
เพศชาย อายุ 7 ปี และ 19 ปี
ตำแหน่งที่สัมผัสพิษแมงกะพรุนส่วนใหญ่ คือบริเวณมือ
เนื่องจากการลงไปเล่นน้ำทะเล บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง
อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยในปี 2567
ยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุน
“สคร.12 สงขลา เน้นย้ำผู้ปกครองให้คำแนะนำบุตรหลาน ไม่ควรลงเล่นน้ำหากพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน หากลงเล่นน้ำทะเล ขอให้สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแนบตัว หากเจอแมงกะพรุน ห้ามจับ หรือสัมผัสโดยเด็ดขาด”
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากได้รับบาดเจ็บจากพิษแมงกะพรุน
แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนอย่างน้อย 30 วินาที
และให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้
เมื่อพบผู้บาดเจ็บจากการถูกพิษแมงกะพรุนห้ามใช้น้ำแข็ง น้ำเปล่า เหล้า โซดา
หรืออื่นๆ ไปเทราดเป็นอันขาด เนื่องจากจะกระตุ้นพิษให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ห้ามถูหรือขยี้ เพราะจะทำให้พิษยิ่งแพร่กระจายมากขึ้น
ที่สำคัญเลี่ยงการใช้เทคนิคพันรัดแน่นด้วยผ้ายืด
และอย่าเก็บแมงกะพรุนที่ตายแล้วด้วยมือเปล่าหรือนำมาเล่น
เพราะต่อมพิษยังสามารถปล่อยพิษได้ หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422.
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา