ด่านสะเดาไม่ได้ตามเป้า เปิด 13 วัน นักท่องเที่ยวเข้ามาแค่ 700 คน จากปัญหาคุมเข้ม
หมวดหมู่ : การเมือง, สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 14 เม.ย. 2565, 17:00 น. อ่าน : 1,024สงขลา-“นิพนธ์” ไปตรวจและรับเรื่องเร่งแก้ปัญหาด่านสะเดา มีปัญหามาตรการก่อนเข้าเมือง ทั้ง”ไทยแลนด์ พาส” และค่าตรวจ อาร์ที-พีซีอาร์ หาเชื้อโควิด-19 เปิดด่าน 13 วัน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแค่ 700 ต้องรีบคลายกฏเข้ม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ก็ต้องคำนึงความปลอดภัยของคนในประเทศด้วย
เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2565 เวลา 13:00 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยและรับฟังปัญหาของด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากเปิดด่านมาได้ 13 วันนักท่องเที่ยว และคนไทย ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยแลนด์ พาส” มาเที่ยวไทยประมาณ 700 คน ซึ่งมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการสงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รอง ผวจ.สงขลา นางสุรีย์พรรณ ณ สงขลา รองผวจ.สงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดาและนายคณิต มีปิด นายด่านศุลกากรสะเดา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูลด้านการควบคุมโรค จำนวนนักท่องเที่ยวและด้านการตรวจ อาร์ที-พีซีอาร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายที่หน้าด่านสะเดารวมประกันโควิดรวมค่าโรงแรมประมาณ 5,000 - 6,000 บาทต่อคน จึงทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าตัดสินใจที่จะเดินทางมาในช่วงนี้
หลังจากได้รับรายงานจากที่ประชุม นายนิพนธ์ได้เดินตรวจด่านสะเดา และเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และเยี่ยมชมสถานที่ตรวจ อาร์ที-พีซีอาร์ ของโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ซึ่งอยู่ภายในบริเวณด่านสะเดา ซึ่งมีนักท่องเที่ยว 1 รายและพระภิกษุหนึ่งรูป กำลังรอตรวจหาเชื้อโควิด
นายนิพนธ์กล่าวถึงการนำเรื่องที่ได้รับรายงานไปเสนอต่อ ศบค.ใหญ่ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 – 13 เม.ย. 65 ที่เราได้เปิดด่านชายแดน ได้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เข้ามาประมาณ 700 กว่าคน ถึงแม้จะเป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวบ้านเราถึงจะไม่มาก ก็ถือว่าเป็นการทดสอบระบบต่าง ๆ ที่ 3 ปี กว่า ที่เราปิดมานาน อาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องมีการแก้ไขปรับปรุง โดยทางด้านจังหวัดก็จะได้นำความเห็นต่าง ๆ ให้ทาง ศบก.ได้รับทราบถึงปัญหาจะได้กำหนดหรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาฝั่งประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันเราต้องมั่นใจว่าการที่ลดเงื่อนไขให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้นนั้น เราสามารถจะดูแลในส่วนของพี่น้องประชาชนบ้านเราได้มากน้อยเพียงใด ที่ทำให้พี่น้องได้รับความมั่นใจในมาตราการต่าง ๆ ที่จะดูแลคุ้มครองพี่น้องประชาชน หากเมื่อเราผ่อนปรนกับนักท่องเที่ยว แม้กระทั้งนักธุรกิจ ต่อไปเข้ามาจำนวนมาก เราจะดูแลสุขภาพอนามัย ฝั่งบ้านเราได้อย่างไร หากบริหาร 2 ข้อ นี้ให้ไปกันได้ มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากลำบาก ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก คิดว่าหลังจากนี้ประมาณ 1 เดือน เราจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่ามีปัญหาต่าง ๆ จะค่อยคลี่คลาย ถ้าเราตกลงหาจุดที่พอดีได้
ส่วนเงื่อนไขที่เห็นตอนนี้ ก็มีเรื่องที่พัก โรงแรมค่าใช้จ่ายที่ยังสูงอยู่ หากค่าใช้จ่ายสูงเกินไป อาจทำให้นักท่องเที่ยวยากที่จะเข้ามา ทางรัฐบาลเองก็อยากจะให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวบ้านเรามากๆ จะได้ช่วยเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปัญหาปากท้องของประชาชน แต่เราก็ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพไปด้วย ซึ่งขณะนี้ยังมีเชื้อโรคโควิด -19 ที่ระบาดเพิ่มสูงอยู่ เพื่อหาจุดพอดีเปิดชายแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว จะต้องไม่มีผลกระทบกับพี่น้องประชาชนเรื่องสุขภาพอีก ไม่ว่าจะเป็นด่านชายแดนที่บ้านเรา หรือด้านชายแดนสุวรรณภูมิ มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น จึงอยางจะใช้โอกาส 1 เดือน ต่อจากนี้ เพื่อแก้ปัญหา ทั้งในพื้นที่บ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นด่านเบตง หรือสุไหงโก-ลก ที่นักท่องเทียวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นสามจังหวัดได้ อีกหลายด่านที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว.