พัทลุง- นายอำเภอเมืองพัทลุง ย้ำเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติ เน้นย้ำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ 3 พันกว่าไรให้โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และให้รายงานผลการตรวจสอบให้อำเภอทราบภายใน 30 ก.ค. 2563
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวกรณีที่กลุ่มชาวบ้านเข้าไปไปถือครองที่ดิน “ควนท่าสำเภาสาธารณ
ประโยชน์ “ จำนวน 3,727 ไร่เศษ เพื่อสร้างเป็นที่ทำกินมากกว่า 3,500 ไร่ มานานกว่า 10 ปี จนชาวบ้านร้องเรียนไปยัง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ทางอำเภอเมืองพัทลุง ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น เร่งสำรวจผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ต่อมานายพงศ์เทพ ประทุมสุวรรณ นายอำเภอเมืองพัทลุง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จกรณีการเข้าไปจับจองถือครองทำประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าว ตามรายชื่อที่ฝ่ายปกครอง อปท. และผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันสำรวจ ตรวจสอบ ไปก่อนหน้านี้ ทั้งพื้นที่ ต.ลำปำ ต.ชัยบุรี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อตอนสายวันที่ 11 มิ.ย.2563 ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองพัทลุง นายพงศ์เทพ ประทุมสุวรรณ นายอำเภอเมืองพัทลุง ได้เป็นประธานในการประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงการเข้าไปจับจองถือครองทำประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าว โดยมีนายจิรวัฒน์ ไกรนรา หน.กลุ่มงานวิชาการที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุงเข้าร่วมด้วย ซึ่งในการดำเนินงานดังกล่าวนี้ทางอำเภอได้ออกแบบสำรวจข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด พร้อมเน้นย้ำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม สำหรับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้มีกำหนด
การตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ประชุมสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 7 ก.ค. 2563 และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้นายอำเภอ ได้รับทราบภายในวันที่ 10 ก.ค.2563
สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ ทาง อปท.จะได้นำโดรนเข้ามาบินสำรวจพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เห็นพื้นที่ที่ถูกชาวบ้านเข้ามาถือครองได้อย่างชัดเจน หลังจากที่เสร็จสิ้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วทางอำเภอจะได้รวบรวมข้อมูลดังกล่าวส่งให้ปกครองจังหวัดพัทลุง เพื่อนำเสนอข้อมูลการบุกรุกต่อคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นไปในแนวทาง 3 แนวทาง ประกอบด้วย การจัดที่ดินให้คนยากจน / แจ้งให้ให้ผู้ถือครองออกจากพื้นที่ตามกำหนดเวลาที่กำหนด / หรือแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างใดอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตามหากการสำรวจข้อเท็จจริงในครั้งนี้ เป็นแนวทางการจัดที่ดินทำกินให้กับคนจน คนยากไร้ ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป หากทางกรมที่ดินเห็นชอบในแนวทางดังกล่าว จึงจะแจ้งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณา หากกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบทางกระทรวงฯจะสนับสนุนงบประมาณในการจัด เจ้าหน้าที่มารังวัดที่ดิน เพื่อจัดสรรให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวต่อไป หากผู้ใดที่ไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด.