“บิ๊กโจ๊ก” กลับบ้านเกิดสงขลา ล่ารายชื่อถอดถอน กก.ป.ป.ช

สงขลา-“บิ๊กโจ๊ก” กลับบ้านเกิด เปิดรณรงค์ลุยล่าชื่อถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ประเดิมที่แรกตำบลบ่อยสง อำเภเมือสงขลา บ้านเกิด

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.67 เวลา  09.30 น  ที่ ตำบลบ่ออยาง อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา มีประชาชนจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ ร่วมกันลงชื่อกล่าวหาถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ที่ต้องสงสัย ทุจริตต่อหน้าที่ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ภายใต้หัวข้อ ปฏิบัติการกวาดบ้าน ให้ ป.ป.ช.” พื้นที่แรกที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยื่นยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภาโดยมีประชาชนจังหวัดสงขลา เดินทางมาร่วมกิจกรรมตั้งแต่ทราบข่าวว่าบิ๊กโจ๊กกลับบ้าน สงขลา เป็นจำนวน  300  กว่าคน   ประชาชนต่างนำบัตรประชาชน  มาแสดงเจตจำนง และเพื่อขอร่วมลงชื่อ ตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 236 ในการตรวจสอบและถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.

ทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์   กล่าวว่า ตั้งแต่หลังยื่นหนังสือจนถึงวันนี้ผ่านไปไม่ถึง 48 ชั่วโมง มีประชาชนมาร่วมลงชื่อแล้วกว่า 6,000 รายแล้ว  ก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรก หลังมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการล่าลายรายชื่อเพื่อกล่าวหาตรวจสอบ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้าราชการของรัฐและจากนี้ไปจะเดินทางต่อไปในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง และอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะไปต่อในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้น ในช่วงสัปดาห์ต่อไปพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และ อุดรธานี และปิดท้ายในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่

“ผมยืนยันว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 2  สัปดาห์  ก็จะได้รายชื่อกว่า 20,000 รายชื่อตามเงื่อนไขโดยจะรวบรวมรายชื่อทั้งหมดเพื่อยื่นให้กับประธานรัฐสภา ตามหลักเกณฑ์ และหากไต่สวนแล้ว มีเหตุให้เชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาประธานรัฐสภา ก็จะส่งเรื่องไปให้ประธานศาลฎีกา เพื่อพิจารณาถอดถอนต่อไป”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันด้วยว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะลงสมัคร ส.ว เนื่องจากคุณสมบัติยังไม่ครบ เพราะจนถึงวันนี้ยังคงทำหน้าที่เป็นตำรวจถือเป็นข้าราชการของรัฐ ดังนั้น การออกมารณรงค์ครั้งนี้ก็เป็นเพราะประชาชนเรียกร้องให้ออกมา ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ที่สำคัญไปกว่านั้นจะเห็นได้ว่า ทันทีที่เปิดโครงการปฏิบัติการกวาดบ้านให้  ป.ป.ช. แทบไม่มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หรือฝ่ายบริหารของ ป.ป.ช. ออกมาร้องคัดค้านหรือเรียกร้องให้เรายุติ แต่กลับส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับการทำหน้าที่ที่ต้องสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของกรรมการ ป.ป.ช. คนดังกล่าวมาเพิ่มเติมให้อย่างต่อเนื่อง” ดังนั้น ตนจึงอยากเชิญชวนให้ประชาชน ไม่ว่าท่านจะอยู่ภูมิภาคใดของประเทศ  ท่านมีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ในการช่วยกันปกป้อง ไม่ให้เกิดการกระทำผิดทุจริตคอร์รัปชันในทุกองค์กรของรัฐ.