ผวจ.สงขลา สั่งเข้มเฝ้าติดตามผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัด
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 21 พ.ย. 2566, 16:00 น. อ่าน : 460สงขลา-ผวจ.สงขลา ประชุม แก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ พร้อมสั่งการทุกอำเภอเฝ้าระวัง ติดตาม ค้นหาผู้ป่วยจิตเวช และผู้ป่วยคลุ้มคลั่งจากการใช้สารเสพติด เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 เวลา 10.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 เพื่อติดตามสถานการณ์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ปราบปราม และสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีพันตำรวจเอก กิตติชัยสังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคงทั้ง 16 อำเภอ เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุม 1 ชั้น5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นวาระแห่งชาติและจะต้องดำเนินอย่างเร่งด่วน ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ทั้งในด้านลดความรุนแรง การป้องปราบ และเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้น ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งการค้า เสพ หรือสนับสนุนโดยเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ ให้ดำเนินการติดตาม เฝ้าระวัง ค้นหาผู้ป่วยจิตเวช และผู้ป่วยคลุ้มคลั่งจากการใช้สารเสพติด เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ทั้งในรูปแบบสมัครใจ และบังคับบำบัด เพื่อให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข หากพื้นที่ใดมีการปล่อยปละละเลย พบผู้เสพมีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด ให้ถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่ของนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน
จากนั้นที่ประชุมได้รายงานติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการ อาทิ การกำหนดมาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน มาตรการเกี่ยวกับการจำหน่ายน้ำพืชกระท่อม เพื่อจัดระเบียบ ควบคุมการซื้อ-ขาย กระท่อมที่ถูกกฎหมายและปลอดภัยต่อผู้บริโภค การยกระดับในการสกัดกั้น ปิดล้อม ตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายในห้วงตุลาคมที่ผ่านมา จำนวน 54 เป้าหมาย ซึ่งสามารถดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาได้ 63 ราย ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 828,344 เม็ดไอซ์ 6.5 กิโลกรัม เฮโรอีน 13.9 กิโลกรัม และเคตามีน 2.20 กิโลกรัม โดยพบว่าเป็นผู้ค้ารายสำคัญ 5 คดี ในพื้นที่อำเภอนาหม่อม คลองหอยโข่ง และหาดใหญ่
นอกจากนี้แล้ว ให้ดำเนินการค้นหาผู้เสพ หรือ การ X-Ray พื้นที่แบบ 100% เพื่อนำตัวผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (CBTx) เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงบริการตั้งแต่ระยะแรก และสามารถกลับไปใช้ชีวิตในชุมชนได้อย่างเป็นปกติ อีกทั้งขยายพื้นที่ในการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ทั้งสถานศึกษา สถานประกอบกิจการ เรือนจำ และทัณฑสถาน เป็นต้น.