ผวจ.สงขลา เดินหน้าป้องกันพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก
หมวดหมู่ : สงขลา, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 2 พ.ย. 2566, 17:00 น. อ่าน : 559สงขลา-ผวจ.สงขลา ประชุมทุกหน่วยงานและนำคณะตรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งการระบายน้ำ ลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 เวลา 09.30 น นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายวรณัฎฐ์หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดสงขลา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รุดลงตรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในเขตเทศบาลตำบลเขารูปช้าง และเทศบาลตำบลพะวง ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ระบุว่าหลังวันที่ 13 พฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม 2566 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวทะเลจีนใต้ตอนล่าง และมีโอกาสเคลื่อนผ่านภาคใต้ ซึ่งจะทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ อาจะก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
จังหวัดสงขลา ภายใต้การนำของนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสงขลา เพื่อกำหนดแนวทางเพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัย ทั้งการเตรียมพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล เครื่องจักร และเครื่องมือ เบื้องต้นได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับแขวงทางหลวงที่ 1 ปภ.สงขลา เทศบาลตำบลเขารูปช้าง สำนักงานชลประทานที่ 16 โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา โครงการชลประทานสงขลา นำรถแบคโฮเข้าขุดลอกคูคลองที่มีวัชพืชปกคลุมอย่างหนาแน่น และกีดขวางทางน้ำไหล เพื่อให้เพิ่มการระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว และไม่เกิดน้ำท่วมขัง พร้อมให้มีการผลิตอินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข่าวสาร/ข้อมูลสถานการณ์ ให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและทุกพื้นที่ได้รับทราบ
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำคณะทำงานลงตรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณคลองสิ่งแวดล้อม (ด้านหลังสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 สงขลา), บริเวณห้าแยกน้ำกระจาย หน้าศูนย์กู้ภัย เทศบาลตำบลพะวง และบริเวณปั้ม ปตท. ควนหิน ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกปีเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณถนน ทำให้การจราจรติดขัด รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ส่งผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด.