พรรคสร้างอนาคตไทย เปิดตัว “น้ำ-วาริน”ลง ส.ส.นครฯ
หมวดหมู่ : การเมือง, นครศรีธรรมราช, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 14 ต.ค. 2565, 15:37 น. อ่าน : 567นครศรีธรรมราช-“สนธิรัตน์”ลงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เปิดตัว น้ำ-วาริน ชิณวงศ์ อดีตประธานหอการค้าจ.นครศรีธรรมราช ลงสมัครพรรคสร้างอนาคตไทย เตรียมผลักกันตั้งตลาดกลางส้มโอทับทิมสยามในพื้นที่อ.ปากพนัง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงานลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคสร้างอนาคตไทย เขตลุ่มน้ำปากพนัง คือ น.ส.วาริน ชิณวงศ์ นักธุรกิจด้านการเกษตรและอดีตประธานหอการค้าจังหวัดและคณะกรรมการหอการค้าแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ต.ค.65 ที่ศาลาหมู่บ้าน หมู่ 17 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชก่อนพบปะเกษตรกรชาวสวนสมโอทับทิมสยาม สวนมะพร้าว สวนปาล์มรวมทั้งพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรคในการประกอบอาชีพทางการเกษตรในพื้นที่ อ.ปากพนัง
การลงพื้นที่ครั้งนี้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรประมาณ 150 คน ให้การต้อนรับและร่วมเสนอปัญหาต่าง ๆ อาทิ ปัญหาอุทกภัย ปัญหาปุ๋ยราคาแพง ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน และส้มโอทับทิมสยาม ที่ในขณะนี้ราคาส้มโอทับทิมตกต่ำเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี ซึ่งทุกปัญหาที่ผ่านมาเกษตรได้เสนอแจ้งให้หน่วยงานราชการทุกระดับและนักการเมืองจากทุกพรรคการเมืองทราบมาโดยตลอด แต่ส่วนใหญ่รับรู้ปัญหาไปแล้วเรื่องก็เงียบหายไม่ได้รับการแก้ปัญหาแต่อย่างใด
น.ส.วาริน ชิณวงศ์ กล่าวว่า ตนได้เรียนกับนายสนธิรัตน์ และคณะกรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย ในสิ่งที่ตนต้องการจะทำเพื่อแก้ปัญหาการทำการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่ หากทางพรรคยืนยันว่าจะดำเนินการแก้ปัญหาเกษตรกรทั้งชาวสวนปาล์มน้ำมัน ส้มโอทับทับสยาม มะพร้าวและพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ อย่างจริงจังตนก็พร้อมที่จะลงสมัคร ส.ส.พรรคสร้างอนาคตไทย เขตลุ่มน้ำปากพนัง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ปากพนัง หากทางพรรคไม่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และไม่รับปากว่าจะร่วมกันแก้ปัญหาให้เกษตรกรในพื้นที่อย่างจริงจังตนก็คงจะร่วมกิจกรรมทางกสรเมืองกับพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้
“ที่ผ่านมานักการเมืองจากหลายพรรคการเมืองลงมาพบปะประชาชน และรับปากที่จะแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนแต่ก็เงียบหาย บางรายบางพรรคได้รับเลือกเป็น ส.ส.แล้วแต่ไม่ได้ลงมาแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนตามที่รับปาก ที่ผ่านมาชาวปากพนังอยู่กันอย่างยากลำบากยากจนอย่างไรก็ยากจนต่อแอย่างนั้น” น.ส.วารินกล่าว
ขณะนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญและตั้งใจเดินทางมาในพื้นที่ อ.ปากพนังจ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างมาก ซึ่งจากที่ได้รับฟังปัญหาพบว่ามีปัญหามากมายหลายปัญหา ซึ่งตนคิดว่าจะต้องหาทางแก้ปัญหาเป็นเรื่อง ๆ ตนคิดว่าเรื่องแรกคือเรื่องปัญหาอุทกภัยที่ในขณะนี้กำลังประสบปัญหาทั่วประเทศ และในภาคใต้และลุ่มน้ำปากพนังกำลังจะเข้าช่วงฤดูมรสุม ซึ่งตนจะติดต่อประสานงานกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเขามีแผนการหรือมาตรการในการรับมืออุทกภัยอย่างไร น้ำท่วมอาจจะแก้ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มีวิธีการอย่างที่ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่น เมื่อน้ำท่วมจะทำไอย่างไรให้น้ำลดโดยเร็วที่สุด เพราะหากท่วมขังนานเกินไปส้มโอทับทิมสยามและพืชผลทางการเกษตรก็จะเสียหาย
สำหรับการแก้ปัญหาราคาผลผลิตส้มโอทับทิมสยามตกต่ำเป็นประวัติการณ์นั้น ตนคิดว่าจะต้องมีการตั้งตลาดกลางในการรับซื้อส้มโอทับทิมสยามในพื้นที่ ในสมัยตนเป็นรัฐมนตรีซื้อส้มโอทับทิมสยามลูกละ 400-500 บาท แพงที่สุดในประเทศ แต่ในขณะนี้คุณภาพดีแค่ 120 บาท รอง ๆ ลงมาเหลือลูกละ 30-70 บาท ตนจะประสานงานกับภาคธุรกิจเพื่อให้มีการจัดตลาดกลางเพื่อแก้ปัญหาพ่อแม่ แม่ค้าคนกลางกดราคาผลผลิตส้มโอทับทิมสยาม นอกจากนี้ตนฝาก น.ส.วาริน ชินวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคสร้างอนาคตไทย ให้รวมตัวกันสร้างแบรนด์ “ส้มโอทับทิมสยาม” ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ เพื่อรับประกันคุณภาพทั้งรสชาติและสีของส้มโอทับทิมสยาม
เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวอีกว่าส่วนการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน เมืองไทยปลูกปาล์มน้อยกว่ามาเลเซียและอินโดนีเซีย ต้นทุนการผลิตก็แพงกว่า คุณภาพปาล์มน้ำมันของไทยสู้มาเลเซียไม่ได้ เขาจัดตั้งเป็นกระทรวงปาล์มน้ำมันเป็นการเฉพาะ อย่างไรก็ตามในภาพรวมเมืองไทยปลูกปาล์มมากกว่าความต้องการของตลาดอยู่ประมาณ 3 แสนตัน ตอนสมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ราคาปาล์มน้ำมันพุ่งสูงถึง กก.ละ 12 บาทเพราะตนมีนโยบายในการนำปาล์มน้ำมันมาทำน้ำมันดีเซล บี 10 3 แสนตนหมดเกลี้ยงทำให้ราคาปาล์มพุ่งสูงจากกก.ละ 4 บาท เป็น 5 บาท 6 บาทและสูงถึง กก.ละ 12 บาท แต่เมื่อตนหมดหน้าที่รัฐมนตรีว่าการปกระทรวงพลังงานเขากลับหยุดผลิต บี.10 แต่หันมาผลิตบี 7 และ บี.5 แทนการใช้ปาล์มน้ำมันจึงน้อยลงจนเริ่มล้นตลาด ราคาจึงตกต่ำลงมาเรื่อย ๆ
“ หากผมมีโอกาสกลับเข้าไปเป็นรัฐมนตรีพลังงานอีกครั้ง เที่ยวนี้ตนจะแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันอย่างถาวร โดยได้มีการพูดคุยในทางธุรกิจกันกับนักลงทุนต่างประเทศเรียบร้อยไปแล้ว โดยผมจะเสนอจัดตั้งโรงงานผลิตน้ำมันหรือกลบ่นน้ำมันเครื่องบิน จัดตั้งโรงงานในภาคใต้โดยใช้ปาล์มน้ำมันเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นน้ำมันคุณภาพไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทางกระแสโลกกำลังต่อต้านสารหรือมลพิษจากควันเครื่องบิน และเก็บเป็นภาษีในราคาสูงและผลักภาระมาอยู่กับประชาชนผู้บริโภคโดยจะเก็บรวมกับค่าโดยสาร แต่หากผลิตน้ำมันเครื่องบินด้วยปาล์มน้ำมัน ปัญหามลพิษหมดไป เพราะเป็นน้ำมันที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติคือปาล์มน้ำมัน ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันจะหมดไปทีที โดยนักลงทุนจะต้องรับประกันราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 7 บาท” นายสนธิรัตน์กล่าว.